แอสตร้าเซนเนก้า ร่วมกับศูนย์จีโนมิกส์ศิริราช เดินหน้าจัดงาน ”Rethink Pink We Care” ปีที่ 3 ชูแนวคิด ห่วงใยผู้หญิงไทย ห่างไกลมะเร็งเต้านม
บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย ร่วมกับ ศูนย์จีโนมิกส์ศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล พร้อมพันธมิตรชั้นนำ เดินหน้าจัดงาน “Rethink Pink We Care” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ภายใต้แนวคิด “ห่วงใยผู้หญิงไทย ห่างไกลมะเร็งเต้านม” โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความตระหนักรู้และเฝ้าระวังเกี่ยวกับโรคมะเร็งเต้านม ครอบคลุมตั้งแต่การตรวจคัดกรอง ไปจนถึงการดูแลตนเองเมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็ง หวังลดจำนวนผู้ป่วยและความรุนแรงของโรคในประเทศไทย งานนี้จัดขึ้น ณ SCBX NEXT STAGE @ NEXT TECH ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอนโดยมีประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมฟังการบรรยายมากมาย
แอสตร้าเซนเนก้า ในฐานะบริษัทผู้วิจัยและพัฒนายาระดับโลก เดินหน้าสานต่อกิจกรรม “Rethink Pink We Care” ร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 หลังได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชนที่เข้าร่วมงานใน 2 ปีที่ผ่านมา โดยกิจกรรมนี้เกิดขึ้นจากการตระหนักถึงความรุนแรงของโรคมะเร็งเต้านมที่มักพบในผู้หญิง และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆของหญิงไทย มีเป้าหมายเพื่อมุ่งส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องครอบคลุมตั้งแต่การสังเกตร่างกายเบื้องต้น เห็นความสำคัญของการตรวจคัดกรองโรคตั้งแต่เนิ่นๆ ไปจนถึงแนวทางรักษาในปัจจุบันและการดูแลตนเองเพื่อสุขภาวะที่ดี ในการส่งมอบองค์ความรู้เหล่านี้ให้ประชาชน แอสตร้าเซนเนก้าจึงได้ร่วมมือกับศูนย์จีโนมิกส์ศิริราช และบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องในการจัดกิจกรรมนี้ขึ้น
นายโรมัน รามอส ประธานบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย และ Frontier Markets เปิดเผยว่า “จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขพบว่ามะเร็งเต้านม เป็นมะเร็งชนิดที่พบบ่อยที่สุดในหญิงไทยและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการเก็บสถิติในปี 2565 พบผู้ป่วยมะเร็งเต้านมจำนวน 38559 คนจากทั่วประเทศ ปัจจุบันสาเหตุของโรคเกิดได้ทั้งจากพันธุกรรมและพฤติกรรมเสี่ยง แอสตร้าเซนเนก้าตระหนักถึงความสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย เราจึงมุ่งทำการศึกษาวิจัย พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อช่วยรักษาผู้ป่วยอย่างตรงจุดและช่วยลดความรุนแรงของโรคในอนาคต ในประเทศไทยเราได้ร่วมมือกับศูนย์จีโนมิกส์ศิริราช ผ่านโครงการ ““Rethink Pink We Care” เพื่อส่งมอบองค์ความรู้ในการป้องกัน แนวทางการวินิจฉัย การกระตุ้นให้เข้ารับการตรวจคัดกรองแต่เนิ่นๆ เพื่อเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที ภารกิจทั้งหมดนี้มีเป้าหมาย เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจของบริษัทฯ
ศ.นพ. มานพ พิทักษ์ภากร สาขาวิชาเวชพันธุศาสตร์ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า “การตรวจยีนหรือ Genomics ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในวงการแพทย์ไทยมากขึ้น ตั้งแต่การป้องกันโรค การตรวจคัดกรอง วินิจฉัย รวมไปถึงการรักษา ในกลุ่มโรคที่หลากหลาย ซึ่งโรคมะเร็งถือเป็นโรคที่สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ การนำเทคโนโลยีนี้มาใช้จึงช่วยในการค้นหาความเสี่ยงภายในครอบครัวได้เป็นอย่างดี สำหรับสาเหตุของโรคมะเร็งเต้านมเกิดจากการกลายพันธุ์ของยีนบีอาร์ซีเอ 1 (BRCA1) และ บีอาร์ซีเอ 2 (BRCA2) จากสถิติพบว่าผู้ที่มียีนกลายพันธุ์กว่า 80% มีโอกาสเป็นโรคมะเร็งเต้านมสูง ซึ่งประโยชน์ของการตรวจคัดกรองด้วยยีนนี้คือมีความแม่นยำสูงหากตรวจพบความเสี่ยงเร็วก็จะช่วยวางแผนการรักษาได้เร็วขึ้น เพิ่มโอกาสรอดชีวิตและลดความรุนแรงของโรคช่วยให้ผู้ป่วยกลับมามีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้นได้
สำหรับรูปแบบการรักษาในปัจจุบันมีอยู่หลากหลาย ทั้งการผ่าตัดซึ่งเป็นวิธีที่ใช้รักษาผู้ป่วยมานาน แต่ด้วยเทคโนโลยีการแพทย์ที่ทันสมัยในปัจจุบัน หากตรวจพบก้อนเนื้อเร็ว การผ่าตัดก็จะเกิดเพียงแผลขนาดเล็ก ซึ่งเป็นผลดีกับผู้ป่วยในการฟื้นตัว
นอกจากนี้ยังมีการใช้เคมีบำบัด การฉายแสง ภูมิคุ้มกันบำบัด และยามุ่งเป้า ซึ่งการเลือกรูปแบบการรักษานี้จะอยู่ภายใต้ดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษาและการตัดสินใจร่วมกับผู้ป่วยด้วย“
ศูนย์จีโนมิกส์ศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลได้รับความร่วมมือจากบริษัทชั้นนำ โครงการ และสถาบันเพื่อผู้ป่วยมะเร็งเต้านมมากมาย ได้แก่ บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด สถานวิทยามะเร็งศิริราช (SiCA) โครงการ Art for Cancer ชมรมผู้ป่วยมะเร็งเต้านมแห่งประเทศไทย (Thailand Breast Cancer Community) แบรนด์เอนิต้า (ประเทศไทย) จำกัด ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) นอกจากกิจกรรมบนเวทีและการออกบูธนิทรรศการแล้ว ยังได้รับความร่วมมือจาก แบรนด์ลา โรช-โพเซย์ ภายใต้บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด ที่มีการดำเนินพันธกิจยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งและครอบครัวผ่านโครงการ “ลา โรช-โพเซย์ เคียงข้างผู้ป่วยมะเร็ง” (Cancer Support by La Roche-Posay) โดยร่วมมือกับมูลนิธิเครือข่ายมะเร็ง มีเป้าหมายช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็งและครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จากการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็ง การให้คำปรึกษาแพทย์เฉพาะทางผิวหนังจากผลกระทบจากการรักษา และการบริจาคผลิตภัณฑ์ ลิปิการ์ โบม เอพี เอ็ม เพื่อดูแลผิวอย่างอ่อนโยนให้กับผู้ป่วยมะเร็ง