เมื่อ : 09 ธ.ค. 2568


วันที่ 9 ธ.ค.นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์และมาตรการดูแลสถานศึกษาในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา หลังเกิดเหตุความไม่สงบเป็นระยะ ว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.)ได้ยกระดับการเฝ้าระวังตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ทั้งด้านความปลอดภัย การจัดการเรียนการสอน และการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงอย่างใกล้ชิด

 

เลขาธิการ กอศ. กล่าวว่า รมว.ศธ. ได้เน้นย้ำให้สอศ. ให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัยของนักเรียน–ครู–บุคลากร พร้อมจัดมาตรการรองรับในทุกจังหวัดที่อยู่ในรัศมีใกล้แนวปะทะ ซึ่งในหลายพื้นที่สถานศึกษาได้จัดให้เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว โรงครัว จุดสนับสนุนภารกิจทหารและฝ่ายปกครอง รวมถึงศูนย์บัญชาการระดับอำเภอ และจัดการเรียนการสอนตามความเหมาะสมของสถานการณ์ ในรูปแบบ Hybrid (ออนไลน์–ออนไซต์) และออนไลน์

จากการรายงานพื้นที่ล่าสุดที่ได้รับผลกระทบ 6 จังหวัด (สุรินทร์ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี สระแก้ว ตราด) มีสถานศึกษาร่วมทำระบบไฟฟ้าในพื้นที่และโรงครัวพระราชทานที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จัดบุคลากรสนับสนุนการแจกจ่ายยุทธภัณฑ์ของทหาร รวมถึงผลิตอุปกรณ์กู้ระเบิดและชุดเสริมเกราะ เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว 7 แห่ง ศูนย์บัญชาการระดับอำเภอ และโรงครัว ซึ่งในบางพื้นที่อยู่ในพื้นที่เฝ้าระวัง แต่ยังสามารถจัดการเรียนได้ตามปกติ ในพื้นที่โซนเสี่ยงแนวปะทะประกาศหยุดเรียนชั่วคราว และปรับจัดการเรียนเป็นรูปแบบออนไลน์  

ทั้งนี้ สอศ. ได้กำชับเตรียมความพร้อมในทุกมิติ ปรับแผนเผชิญ เช่น ศูนย์พักพิงชั่วคราว จุดลงทะเบียนผู้พักพิงร่วมกับฝ่ายปกครอง ประสานทีมแพทย์ประจำศูนย์จัดทีมครู นักศึกษาอาชีวะทำอาหาร-งานครัว รวมถึง Fix it - อาชีวะจิตอาสา เพื่อบริการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าซ่อมอุปกรณ์เกษตร

 

นายยศพล กล่าวเติมเพิ่มว่า ภารกิจครั้งนี้เป็นการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานพื้นที่ โดย สอศ. พร้อมสนับสนุนกำลังคนอาชีวะทุกสาขา เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของเจ้าหน้าที่และดูแลประชาชนในช่วงสถานการณ์วิกฤติ พร้อมติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อขยายการช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที โดยขณะนี้ ยังไม่รับรายงานความเสียหายของสถานศึกษา แต่ยังคงให้สำรวจความปลอดภัยของนักเรียน นักศึกษา ครู บุคลากร และรายงานกลับมายัง สอศ. ทันที


สำหรับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่หาดใหญ่และใกล้เคียง ได้กำหนดการให้บริการ ถึงวันที่ 10 ธ.ค. และให้ สอจ. สงขลา และใกล้เคียงดำเนินการเพิ่มเติมจนกว่าจะแล้วเสร็จ

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ