ทีมนักวิจัยสวทช. จับมือ สถาบันอาชีวศึกษา เสริมทักษะตรวจประเมินความปลอดภัยรถยนต์ EV ในพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้
วิทยาลัยเทคนิค(วท.)หาดใหญ่ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สวทช. ร่วมกับ วท.หาดใหญ่ วท.สงขลา และวิทยาลัยการอาชีพหลวงประธานราษฎร์นิกร จ.สงขลา จัดกิจกรรมให้ความรู้เรื่องการตรวจประเมินความปลอดภัยของยานยนต์ไฟฟ้า (EV) รถไฮบริด และรถปลั๊กอินไฮบริด ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมหรือการจมน้ำ โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อเสริมสร้างทักษะให้กับอาจารย์ผู้สอนและนักศึกษาของวท.ในพื้นที่ และสนับสนุนการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย รวมถึงลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของประชาชนผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในพื้นที่ เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา
โอกาสนี้ ทีมนักวิจัย สวทช. ที่เกี่ยวข้องด้านยานยนต์ไฟฟ้าได้ร่วมกันบรรยายให้ความรู้ ประกอบด้วย ดร.บุรินทร์ เกิดทรัพย์ จากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) สวทช. ดร.มานพ มาสมทบ จากศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC) สวทช. นายสมเดช แสงสุรศักดิ์ นายภัทรกร รัตนวรรณ์ จาก NECTEC สวทช. และนางสาวนันฑิการ มาสมทบ จาก ENTEC สวทช.
ดร.มานพ หนึ่งในทีมนักวิจัยผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ไฟฟ้า กล่าวว่า จากความเสียหายจากเหตุน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่ผ่านมา ส่งผลให้มียานยนต์ไฟฟ้า (EV) ยานยนต์ไฮบริด และยานยนต์ไฮบริดปลั๊กอิน จำนวนมากได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยอันดับแรก ก่อนดำเนินการใด ๆ กับยานยนต์ไฟฟ้าหลังจมน้ำ ให้เจ้าของยานยนต์แจ้งบริษัทประกันภัยทันที เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันภัยมาประเมินและพิจารณาการคุ้มครองตามสัญญาประกัน
ในกรณีที่เจ้าของยานยนต์มีความจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายยานยนต์ของตนเองนั้น เพื่อความปลอดภัยและลดความเสียหายต่อตัวยานยนต์ ทีมวิจัยแนะนำขั้นตอนการเคลื่อนย้ายยานยนต์ไฟฟ้า หลังเหตุการณ์น้ำท่วม ดังนี้
1. การประเมินความเสี่ยงในการเข้าไปกู้รถ และประเมินความเสียหายต่อรถ โดยแบ่งเป็น
- ระดับน้ำต่ำกว่าใต้ท้องรถ จัดเป็นระดับความเสี่ยงน้อยในการเข้าไปกู้รถ โดยความเสียหายอาจเกิดกับชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และช่วงล่างเพียงเล็กน้อย
- ระดับน้ำเลยพื้นรถขึ้นไป จัดเป็นระดับความเสี่ยงสูงในการเข้าไปกู้รถ เนื่องจากอาจมีไฟฟ้าแรงดันสูงรั่วไหลบริเวณรอบรถ มีความจำเป็นต้องกั้นพื้นที่ และรอน้ำลดต่ำกว่าใต้ท้องรถ โดยควาเสียหาย อาจเกิดกับชิ้นส่วน แพ็กแบตเตอรี่ มอเตอร์ อินเวอร์เตอร์ และระบบไฟฟ้าแรงดันต่ำและระบบไฟฟ้าโดยตรง
2. ขั้นตอนการเคลื่อนย้ายรถ สามารถแบ่งตามระดับความเสี่ยงการเข้าไปกู้รถ ดังนี้
- กรณีเสี่ยงน้อย: ห้ามสตาร์ทรถหรือห้ามกดปุ่ม ON ถอดขั้วแบตเตอรี่ 12 V ขั้วลบออก ห้ามเสียบสายชาร์จเด็ดขาด ห้ามสัมผัสสายไฟแรงสูง (สีส้ม) โดยตรง ปราศจากอุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้าแรงดันสูง ห้ามลาก ห้ามเข็น ให้ล้อขับเคลื่อนหมุน แต่ต้องเคลื่อนย้ายด้วยรถสไลด์หรือรถยกเท่านั้น โดยขณะที่ทำการเคลื่อนย้ายด้วยรถสไลด์หรือรถยก ควรมีผ้าคลุมกันไฟไหม้ และอุปกรณ์ดับเพลิงเบื้องต้นจัดเตรียมไว้
- กรณีเสี่ยงมาก: ควรรอน้ำลดต่ำกว่าใต้ท้องรถ และทิ้งรถไว้ให้แห้งอย่างน้อย 24 ชั่วโมง จากนั้น จึงทำตามขั้นตอนในกรณีเสี่ยงน้อย แต่ในกรณีต้องเคลื่อนย้ายเร่งด่วน ควรเคลียร์พื้นที่รอบข้าง ไม่ให้มีวัตถุลามไฟ และจัดเตรียมอุปกรณ์ดับเพลิง เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
ทั้งนี้กิจกรรมดังกล่าวทำให้ผู้เข้าร่วมได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์จริงเกี่ยวกับเหตุการณ์น้ำท่วมและผลกระทบต่อยานยนต์ไฟฟ้า ตลอดจนได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องด้านการประสานงานกับบริษัทประกันภัย ขั้นตอนในการจัดการรถที่จมน้ำ และแนวทางป้องกันอันตรายเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน
