เมื่อ : 24 พ.ย. 2568

 
ต.พะโต๊ะ และ ต.พระรักษ์ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร  ประชากรส่วนใหญ่อพยพมาจากภาคอีสานและภาคกลางเมื่อปี พ.ศ. 2512 เพื่อทำสวนยางพาราบริเวณสองฝั่งแม่น้ำหลังสวน ต่อมาแม่น้ำมีปริมาณน้ำน้อยประกอบกับตะลิ่งสูงชันการนำน้ำขึ้นมาใช้ประโยชน์ทางการเกษตรจึงต้องใช้ทุนมากเนื่องจากต้องสูบน้ำขึ้นมา

  
นายสุรัตน์ ลิมป์รัชดาวงศ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 ต.พะโต๊ะ  อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร เปิดเผยว่า หลังจากโครงการฝายคลองพรพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ แล้วเสร็จมีระบบท่อส่งน้ำเข้าพื้นที่เพาะปลูกของราษฎรชีวิตความเป็นอยู่ก็ดีขึ้น เกษตรกรที่ทำสวนยางพาราเปลี่ยนมาปลูกพืชแบบผสมผสานประเภทพืชสวนให้ผล และลดต้นทุนด้านน้ำมันที่ใช้กับเครื่องสูบน้ำ  

 

“  ปลูกยางพาราเวลาราคาตกก็ทำให้ชีวิตลำบาก  เมื่อเปลี่ยนมาปลูกพืชให้ผลแบบหลากหลาย ราคาผลผลิตพืชตัวไหนราคาตกก็จะมีพืชตัวอื่นเข้ามาแทนที่ ในพื้นที่จะปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ซึ่งขายได้ราคาดี นอกจากนี้ก็มีมังคุด เงาะ สละ กล้วย และส้มโชกุน รวมถึงพืชผักอื่นๆ ที่ขายได้ตลอดทั้งปี  ชาวบ้านอยู่ดีกินดีขึ้นเยอะ ก็ขอขอบคุณพระองค์ท่านที่พระราชทานโครงการมาให้กับชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์มีกินมีใช้ในทุกวันนี้ “นายสุรัตน์ กล่าว 

ด้านนายปรีชา เย็นบ้านควน ราษฎรหมู่ที่ 1  บ้านเขาตะเภาทอง ต.พะโต๊ะ เผยว่าหลังจากฝายก่อสร้างเสร็จได้ยกระดับน้ำให้สูงขึ้นสามารถส่งไปยังพื้นที่อยู่อาศัยและทำการเกษตรของราษฎรได้ และเพื่อให้การใช้น้ำได้รับความเป็นธรรมแก่ราษฎรอย่างทั่วถึงจึงได้มีการจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำขึ้นมา โดยจะเก็บค่าน้ำเดือนละ 30 บาทเพื่อใช้บำรุงรักษาโครงการ  เกษตรกรเปลี่ยนสวนยางพารามาปลูกมังคุด ทุเรียน และปาล์มน้ำมัน ทำให้มีรายได้ประมาณ 2-3 แสนบาทต่อปีต่อครอบครัว  
“นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงเมตตากับชาวบ้าน  ฝายช่วยให้ทุกคนมีกินมีใช้ หน้าฝนน้ำก็ไม่ท่วม“ นายปรีชา กล่าว


โครงการฝายคลองพรพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อช่วยเหลือราษฎรบ้านเขาตะเภาทอง หมู่ที่ 1 บ้านปะติมะ หมู่ที่ 14 และบ้านประสานมิตร หมู่ที่ 18 ต.พะโต๊ะ ซึ่งขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคและทำการเกษตร เป็นฝายทดน้ำคอนกรีตเสริมเหล็กความยาวสันฝาย 12 เมตร สูง 2.50 เมตร เป็นแหล่งน้ำสำหรับการอุปโภคบริโภคของประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งโรงเรียนและสำนักสงฆ์ ปัจจุบันมีการจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำร่วมบริหารจัดการน้ำในชื่อ กลุ่มบริหารการใช้น้ำชลประทานฝายคลองพรพัฒนา มีสมาชิก 111 ครัวเรือนพื้นที่รับประโยชน์ 500 ไร่ กลุ่มมีการบริหารจัดการน้ำอย่างเข้มแข็ง

วันพุธที่19 พ.ย.ที่ผ่านมา พล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมด้วย พล.อ. เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี รองประธานอนุกรรมการฯ นายศุภรัชต์ อินทราวุธ รองเลขาธิการ กปร. และคณะอนุกรรมการฯ ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อติดตามการใช้ประโยชน์จากฝายฯ พบว่า โครงการมีแผนงานเพิ่มศักยภาพการเก็บกักน้ำ โดยการเสริมสันฝายคอนกรีตให้สูงขึ้น และปรับปรุงระบบส่งน้ำเพื่อให้สามารถบริหารจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำตลอดทั้งปี  พร้อมขุดลอกตะกอนบริเวณหน้าฝายในทุกๆ 2 ปี  เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำให้เพียงพอในช่วงหน้าแล้ง
 

โอกาสนี้ องคมนตรี ได้พบปะราษฎรพร้อมกับกล่าวถึงความสำคัญของกลุ่มผู้ใช้น้ำ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด และลดความเลื่อมล้ำเรื่องการใช้น้ำ นอกจากนี้เกษตรกรควรมีการปลูกพืชแบบผสมผสานตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อให้มีรายได้หมุนเวียนตลอดปี