เมื่อ : 18 พ.ย. 2568


ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมถ่ายทอดการวิจัยผ่านการแสดงดนตรี “เล่าเรื่องเมืองน่านผ่านเสียงดนตรี” ภายใต้โครงการวิจัยดนตรีประจำชาติบนความแตกต่าง ความหลากหลาย และอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข เมื่อเย็นวันที่ 15 พ.ย. ที่ข่วงเมืองน่าน หน้าวัดภูมินทร์ จ.น่าน โดยนางวิไลวรรณ บุดาสา รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวต้อนรับ และรศ. ดร.สุกรี เจริญสุข ประธานมูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข กล่าวถึงจุดประสงค์การจัดคอนเสิร์ต มีชาวน่าน และนักท่องเที่ยว เข้าร่วมชมกันอย่างเนืองแน่น 


ในงานนอกจากมีศิลปินพื้นบ้าน อย่างนายภานุทัต อภิชนาธง ศิลปินพื้นบ้านล้านนา มาเป่าปีชุม  และนายเกษมศักดิ์  ดีพิชัย  มาเดี่ยวสะล้อให้ฟังกันแล้ว ยังเชิญนายชินวัฒน์ เต็มคำขวัญ นักกีตาร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก มาโชว์เดี่ยวกีตาร์ รวมถึงกวีซีไรท์ อย่างจิระนนท์ พิตรปรีชา มาอ่านบทกวีเคล้าเสียงปีชุมและเสียงวิโอลา พร้อมการแสดงของวงดนตรีล้านนาสมัย ซึ่งเป็นวงดนตรีเยาวชนที่ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับสาม ในโครงการประลองยอดฝีมือเยาวขนดนตรีครั้งที่ 3 บรรเลงร่วมกับวงไทยซิมโฟนีออร์เคสตร้า ควบคุมวงโดยพ.อ.พิเศษดร.ประทีป สุพรรณโรจน์


ดร.วิภารัตน์ กล่าวว่า วช. ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม(อว.) ได้สนับสนุนมูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข ในโครงการดังกล่าวมาทุกภูมิภาค ครั้งนี้มาที่จ.น่าน ในธีม“เล่าเรื่องเมืองน่านผ่านเสียงดนตรี”  เน้นในเรื่องอัตลักษณ์ ประวัติศาสตร์ และเรื่องของท้องถิ่น  การที่โครงการวิจัยดนตรีฯได้คัดเลือกเมืองน่าน เพื่อศึกษาค้นคว้าเรื่องดนตรีของชนเผ่าต่างๆในเมืองน่าน ที่มีทั้งไทโยนก ไทลื้อ ไทใหญ่ ลัวะ กะเหรี่ยง ม้ง ลีซอ มอญ พม่า ไทยดำ ไทยขาว เป็นต้น โดยนำทำนองเพลงมาเรียบเรียงใหม่ให้วงไทยซิมโฟนีออร์เคสตร้าบรรเลง ซึ่งเป็นพัฒนาการใหม่ โดยนำอดีตมารับใช้ปัจจุบัน เพื่อสร้างบทเพลงขึ้นใหม่ แต่ยังอาศัยรากเหง้าเดิมของเพลงไว้


“ช่วงที่ผ่านมางานของมูลนิธิอาจารย์สุกรีฯ เดินหน้ามาได้อย่างน่าชื่นชมยิ่งนัก โดยเฉพาะในเรื่องของการประกวดยอดเยาวชนดนตรี แล้วนำวงดนตรีที่ชนะในแต่ละภูมิภาคมาบรรเลงร่วมกับวงไทยซิมโฟนีออร์เคสตร้า เปิดโอกาสให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้แสดงความสามารถ  เป็นการยกระดับดนตรีท้องถิ่นสู่มาตรฐานสากล อีกทั้งโครงการนี้ยังมีบทบาทในการส่งเสริมความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม และสร้างโอกาสให้ศิลปินรุ่นใหม่ได้มีเวทีแสดงศักยภาพ เป็นต้นแบบของการบูรณาการงานวิจัยศิลปวัฒนธรรม และการพัฒนาอย่างยั่งยืน”ดร.วิภารัตน์ กล่าว

นางวิไลวรรณ กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณทางวช.และมูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข ที่เลือกมาจัดคอนเสิร์ตที่น่าน ทำให้ชาวน่านได้มีชมการแสดงของวงไทยซิมโฟนีออร์เคสตร้าที่ไม่เคยได้ชมแบบนี้มาก่อน ผู้คนจำนวนมากสนใจมาดู ทำให้คนที่นี่รับรู้เรื่องราวของดนตรีพื้นเมืองของน่านมากขึ้น ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความโดดเด่นด้านศิลปวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น ปัจจุบันได้รับการยอมรับความสนใจจากชาวต่างชาติด้านหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน ส่งผลให้เกิดความสนใจด้านการท่องเที่ยวและกิจกรรมสร้างสรรค์เพิ่มขึ้น การจัดแสดงดนตรีครั้งนี้สะท้อนบทบาทของดนตรีในฐานะภาษาสากลที่ช่วยสร้างสุนทรียภาพและเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์และสังคม

รศ.ดร.สุกรี กล่าวว่า คอนเสิร์ตที่เมืองน่านครั้งนี้ประสบความสำเร็จดีเยี่ยม ผู้ฟังน่ารักมากนั่งฟังอย่างสงบนิ่ง ที่นี่เป็นเมืองมีเสน่ห์ มีรสนิยม เดิมคนคิดไม่ถึงว่าดนตรีคลาสสิกจะสามารถเข้าถึงผู้คนได้ แต่ที่เมืองน่านเป็นคำตอบใหม่ว่าดนตรีคลาสสิกเข้าถึงผู้คนได้ ไม่ว่าจะสูงต่ำดำขาวต่างเชื้อชาติต่างเผ่าพันธุ์ ทุกคนมีความสุขเท่ากันหมด ที่สำคัญหลังจากที่ชาวน่านเจ็บปวดทุกข์ทรมานมาจากน้ำท่วมช่วงกลางปีนี้ พอมาฟังดนตรีแล้วทำให้มีพลังมากขึ้น และภูมิใจในสิ่งที่วงไทยซิมโฟนีออร์เคสตร้ามาแสดง เท่าที่พูดคุยกับชาวน่านต่างขอบคุณผู้สนับสนุนทั้งวช.และทางไทยพีบีเอส ฝ่ายการท่องเที่ยวก็บอกว่าทำให้เมืองน่านน่าอยู่ขึ้น


“สาเหตุที่ผมเลือกเมืองน่าน  เนื่องจากมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม มีชนเผ่าจำนวนมาก แต่ละชนเผ่ามีดนตรี มีเครื่องดนตรีมีเพลงของตัวเอง หากนำสิ่งเหล่านั้น ซึ่งเป็นมรดกที่ยิ่งใหญ่ ทำให้เป็นระดับนานาชาติที่เข้าถึงได้ คือนำอดีตมารับใช้ปัจจุบัน และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เมืองน่านก็จะมีเสน่ห์มาก ยกตัวอย่างง่ายๆหากเมืองน่านจะจัดเทศกาลดนตรีระดับเวิลด์มิวสิคควรเน้นดนตรีท้องถิ่น แล้วเชิญนักดนตรีท้องถิ่นของโลกที่ยังเหลืออยู่ ไม่ว่าจากจีน ญี่ปุ่น มองโกเลีย จัดเป็นมหกรรม พร้อมให้วงซิมโฟนีใหญ่ๆมาแบ็คอัพในวันสุดท้าย ผมคิดว่าเมืองน่านจะงดงามและน่าอยู่มาก”

ด้านนายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน กล่าวว่า การจัดคอนเสิร์ตครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้กับคนเมืองน่าน เป็นการจุดประกาย และสืบค้นดนตรีของเก่ามาเล่า เพื่อให้มารับใช้ปัจจุบัน ชาวน่านเองเพิ่งผ่านภาวะน้ำท่วมหนักในรอบ 208 ปีมา การแสดงดนตรีครั้งนี้จึงเป็นความยิ่งใหญ่มาก และเมื่อศูนย์การเรียนรู้นันทสิปปาคารก่อสร้างเสร็จในเร็วๆนี้  ที่นั่นมีห้องออดิทอเรียม 250 ที่นั่ง สามารถจัดดนตรีออร์เคสตร้าแบบนี้ได้  หวังว่าทางวช.และมูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข  จะสนับสนุนให้มีการแสดงที่น่านบ่อยครั้งขึ้น พร้อมฝึกสอนให้เด็กน่านด้วย

 

ทั้งนี้ การจัดแสดงดนตรีภายใต้โครงการวิจัยดนตรีประจำชาติที่จังหวัดน่าน ได้ร่วมกับสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสในการบันทึกเทปการแสดง ซึ่งกำหนดจะออกอากาศในวันที่ 10 ธ.ค.นี้

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ