เมื่อ : 14 ต.ค. 2568


วันที่ 14 ต.ค. รศ. ดร.ธวัชชัย อ่อนจันทร์ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทน. ได้รับมอบหมายจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ให้ทำหน้าที่เป็น หัวหน้าคณะผู้แทนไทย เข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีของ World Fusion Energy Group (WFEG) ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2  ที่นครเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน


การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้การสนับสนุนของ ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) โดยได้รับเกียรติจาก Mr. Rafael Mariano Grossi ผู้อำนวยการใหญ่ IAEA เข้าร่วม พร้อมผู้แทนระดับรัฐมนตรีและผู้บริหารสูงสุดจากประเทศสมาชิกทั่วโลก ทั้งนี้ H.E. Mr. Xiaohui Wang เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ มณฑล  เสฉวน และ H.E. Mr. Jiachang Chen รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจีน เป็นเจ้าภาพจัดประชุม  ในพิธีเปิดการประชุม ผู้อำนวยการใหญ่ IAEA กล่าวถึงความสำคัญของ WFEG ในฐานะเวทีความร่วมมือระดับโลก ที่เปิดโอกาสให้ประเทศสมาชิก ภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันวิจัยได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เพื่อร่วมกันพัฒนา “พลังงานฟิวชัน” พลังงานสะอาดแห่งอนาคตที่มีศักยภาพสูงในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานของโลก พร้อมขอบคุณรัฐบาลจีนที่มีบทบาทนำในการขับเคลื่อนการพัฒนาด้านนี้ และยืนยันว่า IAEA จะยังคงเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก

ในการประชุมดังกล่าว รศ.ดร.ธวัชชัย  กล่าวแถลงการณ์ในนามประเทศไทย โดยแสดงความชื่นชมต่อบทบาทของ IAEA ในการส่งเสริมการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนิวเคลียร์เพื่อสันติ และขอบคุณรัฐบาลจีนที่ให้การต้อนรับอย่างดียิ่ง


รศ.ดร.ธวัชชัย เน้นย้ำว่า “พลังงานฟิวชัน” เป็นพลังงานสะอาดที่มีศักยภาพสูงในการตอบโจทย์ ความมั่นคงทางพลังงานและการลดคาร์บอนในระยะยาว พร้อมชี้ว่าการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้จากประเทศใดประเทศหนึ่งเพียงลำพัง แต่ต้องอาศัยความร่วมมือของประชาคมโลกอย่างทั่วถึงและยั่งยืน


ประเทศไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาพลังงานฟิวชันในระดับภูมิภาคมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้จัดตั้ง ASEAN School on Plasma and Nuclear Fusion ตั้งแต่ปี 2558 เพื่อสร้างเครือข่ายนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้การสนับสนุนของ IAEA และพันธมิตรนานาชาติ 


นอกจากนี้ ในปี 2566 ประเทศไทยยังได้ติดตั้ง เครื่องโทคาแมค Thailand Tokamak-1 (TT-1) ซึ่งเป็นเครื่องโทคาแมคเครื่องแรกของภูมิภาคอาเซียน ตั้งอยู่ที่ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (สทน.) อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก โดยเกิดจากความร่วมมือระหว่าง สทน. และ สถาบันฟิสิกส์พลาสมาแห่งสถาบันวิทยาศาสตร์จีน (ASIPP) ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับความร่วมมือด้านพลังงานฟิวชันในระดับภูมิภาค

 

ในตอนท้ายของการประชุม รศ.ดร.ธวัชชัย ได้เสนอให้ประเทศต่าง ๆ ร่วมกันผลักดันให้พลังงานฟิวชันเป็น “พลังงานของมวลมนุษยชาติอย่างแท้จริง” ผ่านการแบ่งปันองค์ความรู้ การฝึกอบรมบุคลากร และการเข้าถึงทรัพยากรทางวิทยาศาสตร์อย่างเท่าเทียม เพื่อสร้างชุมชนวิจัยฟิวชันระดับโลกที่มีความเป็นธรรม ครอบคลุม และยั่งยืน


พร้อมกันนั้น  ผู้อำนวยการ สทน. ได้ยืนยันความพร้อมของประเทศไทยในการร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ทั้งด้านการวิจัย การพัฒนาเทคโนโลยี และการเสริมสร้างศักยภาพบุคลากร เพื่อร่วมขับเคลื่อนเป้าหมายเดียวกัน 
“สร้างพลังงานสะอาดเพื่ออนาคตของโลก”

ก่อนหน้านี้ รศ.ดร.ธวัชชัย เข้าร่วมการประชุมหารือกับ China Atomic Energy Authority (CAEA) และ China National Nuclear Corporation (CNNC)  ที่เมืองเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมี Mr. Huang Ping เลขาธิการ CAEA และ Mr. Yang Long ผู้อำนวยการด้านความร่วมมือระหว่างประเทศ CNNC ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น


รศ.ดร.ธวัชชัย กล่าวขอบคุณ CAEA และ CNNC สำหรับการให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องต่อการพัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์ของประเทศไทย พร้อมทั้งย้ำถึงความร่วมมือภายใต้บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการใช้พลังงานนิวเคลียร์อย่างสันติ ระหว่าง กระทรวงอว. กับ CAEA ซึ่ง สทน. เป็นหนึ่งในหน่วยงานหลักภายใต้กระทรวง อว. ที่มีภารกิจด้านการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนิวเคลียร์ในทางสันติ


ในโอกาสครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–จีน รศ.ดร.ธวัชชัย  กล่าวถึงความสำคัญของความร่วมมือด้านนิวเคลียร์ที่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศ โดย CNNC ได้ให้เกียรติเข้าร่วมเป็นผู้บรรยายในหัวข้อ Small Modular Reactor (SMR) ในงานสัมมนาทางวิชาการที่ สทน. จะจัดร่วมกับ มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในวันที่ 12 พ.ย.นี้ อีกด้วย

 


หนึ่งในผลลัพธ์สำคัญของความร่วมมือระหว่างไทยและจีน คือ การจัดตั้งห้องปฏิบัติการร่วมด้านเครื่องปฏิกรณ์ขนาดเล็ก (Joint Laboratory on Small Modular Reactors) ระหว่าง สทน. และ สถาบันพลังงานนิวเคลียร์แห่งประเทศจีน (Nuclear Power Institute of China: NPIC) ภายใต้ CNNC ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของความร่วมมือทางเทคนิค เพื่อกำหนดแนวทางความร่วมมือในด้านการฝึกอบรมบุคลากร การแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญ


นอกจากนี้ สทน. ยังอยู่ระหว่างการเตรียมลงนามใน หนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent) กับ Hainan Nuclear Power ซึ่งเป็นหน่วยงานในเครือ CNNC เพื่อส่งเสริมการพัฒนาองค์ความรู้และศักยภาพบุคลากรด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนากำลังคนรองรับการใช้พลังงานสะอาดและนวัตกรรมนิวเคลียร์ในอนาคตของประเทศไทย
รศ.ดร.ธวัชชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สทน. มีความมุ่งมั่นที่จะขยายความร่วมมือกับ CNNC และสถาบันในเครือต่อไปในด้านการวิจัย SMR การประเมินความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีนิวเคลียร์เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งยืนยันว่า สทน. จะดำเนินงานให้สอดคล้องกับกรอบความร่วมมือระหว่าง อว. และ CAEA เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์อย่างสันติ ปลอดภัย และยั่งยืนในภูมิภาค

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ