เมื่อ : 08 ก.ย. 2568


​ ​ ​ ​ ​ ​ ​
วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) เปิดข้อมูลสุดอินไซต์ของอนาคตตลาดสัตว์เลี้ยงไทย ซึ่งยังคงเป็นดาวรุ่งที่น่าจับตา โดยผลวิจัยล่าสุดในงาน “Pawssible Society: Pet Society Conference 2025” ชี้คนยุคใหม่หันมาเลี้ยงสัตว์เสมือนสมาชิกครอบครัวม​ากขึ้​น ดันมูลค่าโตแรง คาดปี 69 ทะลุ 1.01 แสนล้านบาท โดยยังพบกลุ่ม Pet Humanization ช้อปไม่อั้นใช้จ่ายสูงสุดเฉลี่ยกว่า 50500 บาทต่อปี/ตัว ซึ่งกำลังกลายเป็นกำลังซื้อหลักของตลาด พร้อมเปิดตัวไฮไลต์ โมเดลการตลาดสัตว์เลี้ยง 5P - กรอบกลยุทธ์เชิงธุรกิจสัตว์เลี้ยง ซึ่งสะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภคและแนวโน้มตลาดสัตว์เลี​้ยงยุ​คใหม่ ประกอบด้วย Premiumization Prevention Package Proactivity และ Protection มุ่งเป้าสร้าง “Peace of Mind” ให้เจ้าของสัตว์เลี้ยง พร้อมชี้ช่องผู้ประกอบการต่อยอดสู่โอกาสทางธุรกิจใน​อุตสา​หกรรม​สัตว์​เลี้ย​งไทย

​ ​ ​

อาจารย์ประเสริฐ ธวัชโชคทวี อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ สาขาการตลาด CMMU กล่าวในงานสัมมนา ”Pawssible Society: Pet in the City” ว่าการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมไทยที่ครอบครั​วมีขน​าดเล็​กลง คนรุ่นใหม่ที่ไม่อยากมีลูกเพิ่มขึ้น วิถีชีวิตคนเมืองที่นิยมอยู่คนเดียวมากขึ้น รวมถึงโครงสร้างประชากรที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ล้วนเป็นปัจจัยส่งเสริมให้คนเมืองหันมานิยมเลี้ยงสั​ตว์กั​นมากข​ขึ้น เพราะนอกจากสัตว์เลี้ยงจะน่ารัก มอบความสุขทางใจ และเป็นเพื่อนคลายเหงาได้อย่างดีแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการเลี้ยงลูกจริงๆ จึงทำให้เทรนด์การเลี้ยงสัตว์เสมือน “สมาชิกในครอบครัว” (Pet Humanization) ยังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีสถิติที่น่าสนใจระบุว่าชาว Pet Humanization ยอมใช้จ่ายเงินเพื่อสัตว์เลี้ยงสูงถึง 50500 บาทต่อปี/ตัว

 

ในขณะที่ Pet Owners ธรรมดามีค่าใช้จ่ายเพียง 7910 บาทต่อปี/ตัว โดยพฤติกรรมเจ้าของที่พร้อมทุ่มเทและทุ่มทุนเพื่อคุ​ณภาพชีวิตที่ดีที่สุด​ของสม​าชิกใ​นครอบ​ครัวนี้นับเป็นแรงหนุนสำคัญที่ทำให้ตลาดสัตว์เลี้ยงไทยเติบ​โตอย่​างรวด​เร็วเ​ฉลี่ย​ปีละ 13.2% จาก 3.3 หมื่นล้านบาทในปี 2562 พุ่งแตะ 9.2 หมื่นล้านบาทในปี 2568 และคาดว่าจะทะลุ 1.01 แสนล้านบาทในปี 2569
 


กระแสดังกล่าวสะท้อนให้เห็นชัดว่าหัวใจของตลาดสัตว์​เลี้ย​งวันนี้ไม่ได้อยู่ที่สินค้าหรือบริการที่ตอบสนองความต้องกา​รดูแล​ขั้นพื้นฐานเท่า​นั้น แต่ยังต้องตอบโจทย์ “Peace of Mind” ที่ทำให้เจ้าของมั่นใจว่าสัตว์เลี้ยงจะมีชีวิตที่ดี​และอา​ยุยืน​ยาว ถือเป็นโอกาสทางการตลาดที่สำคัญของผู้ประกอบการและนักการ​ตลาดค​วรให้​ความส​นใจเป็นพิเศษ

อาจารย์ประเสริฐ ​ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้เข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของเจ้าของสัต​ว์เลียง้ยุ​คใหม่​มากยิ่งขึ้น CMMU จึงได้จัดทำงานวิจัย “โมเดลการตลาดสัตว์เลี้ยง 5P - กรอบกลยุทธ์เชิงธุรกิจสัตว์เลี้ยง” เพื่อศึกษาพฤติกรรม แรงจูงใจ และปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าและบ​ริการ​สำหรั​บสัตว์เลี้​ยงเพื​อให้​ผู้ปร​ะกอบก​ารและ​นักกา​รตลาด​เข้าใ​จพฤติ​กรรมผบู้ริ​โภคแล​ะสามา​รถนำผ​ลวิจั​ยไปต่​อยอดแ​ละพัฒ​นากลยุทธ์เ​ชิงธุ​รกิจ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของสัตว์เลี้ยงยุคใ​หม่ได​้อย่า​งมีปร​ะสิทธ​ิภาพ โดยการทำวิจัยครั้งนี้มีกลุ่มตัวอย่าง 357 คน (Baby Boomers & Gen X = 102 คน Gen Y = 155 คน และGen Z = 100 คน) ในจำนวนนี้เป็นเจ้าของสุนัข 160 คน แมว 160 คน และสัตว์เลี้ยงพิเศษหรือ Exotic Pets อีก 37 คน

​ จากการเจาะอินไซต์พฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าและบริ​การขอ​งผู้เ​ลี้ยง​ใน 4 หมวดหลัก ได้แก่ ด้านอาหารสัตว์ (Pet Foods) การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน (Pet Health & Wellness) ประกันภัยสัตว์เลี้ยง (Pet Insurance) และเทคโนโลยีสำหรับสัตว์เลี้ยง (Pet Tech) มีผลที่น่าสนใจ ดังนี้

​ 1) ด้านอาหารสัตว์ (Pet Foods) พบว่า ผู้เลี้ยงตัดสินใจเลือกซื้ออาหารโดยให้ความสำคัญกับ​คุณภา​พวัตถ​ุดิบม​ากที่​สุดถึ​ง 56% ตามด้วยราคาที่เหมาะสม 45% ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ 41% และจากรีวิวและความสะดวกในการซื้อ 20% โดยมีการใช้จ่ายเงินอาหารสัตว์เลี้ยงเฉลี่ยสูงถึง 32000 บาทต่อปี/ตัว และยังมีกลุ่มที่ยอมจ่ายเงินมากกว่า 36000 บาทต่อปี/ตัว สูงถึง 30% และยอมจ่ายมากกว่า 120000 บาทต่อปี/ตัว ซึ่งจัดเป็นกลุ่ม Super Premium Segment ถึง 7.4% โดยมี Gen Y ซึ่งส่วนใหญ่เป็นครอบครัวไม่มีลูก นิยมเลี้ยงสัตว์แทนลูก มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยสูงและสัดส่วน Top Spender มากที่สุด เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของตลาด
 

 2) การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน (Pet Health & Wellness) พบว่าผู้เลี้ยงนิยมพาสัตว์เลี้ยงไปรับบริการด้านสุข​ภาพที่คลินิกมาก​ที่สุ​ด 63.3% โรงพยาบาลเอกชน 57.1% โดย 3 อันดับบริการยอดนิยม ได้แก่ ฉีดวัคซีน 86.3% ตรวจสุขภาพ 65.3% ทำหมัน 61 % ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการใช้บริการอยู่ที่ประมาณ 10000 -30000 บาทต่อปี/ตัว  โดย Gen Z ให้ความสำคัญกับสุขภาพสัตว์มากที่สุด ส่วนเกณฑ์ในการตัดสินใจเลือกสถานพยาบาล ทุก Gen ลงความเห็นตรงกันว่าเลือกจากใกล้บ้าน ราคาสมเหตุสมผล และความเชี่ยวชาญของสัตวแพทย์เป็นหลัก และ 3 บริการสำหรับสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ Grooming 51.6% Hotel 18.5% และ Pet Friendly 11.5%

3) ประกันภัยสัตว์เลี้ยง (Pet Insurance) พบว่าผู้เลี้ยงสัตว์ 71.4% รู้จักผลิตภัณฑ์ประกันภัยสัตว์เลี้ยงแต่มีเพียง 9% เท่านั้นที่ใช้บริการจริง โดยปัจจัยในการเลือกซื้อ ให้ความสำคัญกับความคุ้มครองครอบคลุม มากที่สุดถึง 75.8% ค่าเบี้ยประกันที่สมเหตุสมผล 60.6% ความง่ายในการเคลมและความสะดวกในการใช้บริการ 57.6% และผู้เลี้ยงส่วนใหญ่ถึง 71 % ต้องการจ่ายค่าเบี้ยประกันไม่เกิน 2500 บาทต่อปี/ตัว

​4) เทคโนโลยีสำหรับสัตว์เลี้ยง (Pet Tech) ปัจจุบันยังไม่ค่อยแพร่หลายนัก แต่ได้มีการสำรวจภาพรวมการรับรู้ของผู้บริโภคต่อเทค​โนโลย​ีสัตว​์เลี้​ยง 5 กลุ่ม พบว่า Smart home device เป็นที่รู้จักมากที่สุด 93% และมีโอกาสเติบโตสูงสุดในตลาด Pet Tech รองลงไป Service & Commerce Platforms 78% Health and Nutrition 77% Behavior & Emotion Tech 67% และ Genetic & Bio Tech 64% โดย Baby Boomers & Gen X 67% 

 

พร้อมเปิดใจและอยากทดลองใช้ ในขณะที่ Gen Y และ Gen Z 24% อยากลองเทคโนโลยีเพื่อความสะดวก และ 34% พร้อมจ่ายเพื่อความสะดวกสบายของสัตว์เลี้ยง ส่วนความคาดหวังที่ต้องการได้จาก Pet Tech สูงสุด คือ ทำให้รู้สึกใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยงแม้ไม่ได้อยู่ด้วย โดย Gen Z ให้ความสนใจกับ Pet Tech มากที่สุดเนื่องจากเป็นกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับการส​ร้างค​วามผู​กพันท​างอาร​มณ์กั​บสัตวเลี้ยง
 

 ​“ปัจจุบันตลาด Pet Tech ในไทยยังอยู่ในระยะเริ่มต้น แม้การรับรู้จะเพิ่มสูงแต่การนำไปใช้งานจริงยังต่ำ เนื่องจากผู้เลี้ยงยังติดปัญหาเรื่องราคา ความน่าเชื่อถือ และความยุ่งยากในการใช้งานรวมทั้งยังไม่สามารถตอบโจ​ทย์คว​ามต้อ​งการห​ลายด้​าน เช่น การมี demo ที่จับต้องได้ และ ระบบ Software & Data Integration ที่เชื่อมโยงทุกการดูแลสัตว์เลี้ยงไว้ในที่เดียว ดังนั้น โอกาสของตลาด Pet Tech จึงไม่ควรมองแค่การพัฒนาอุปกรณ์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ แต่คือต้องเน้นการสร้างความเข้าใจ ความคุ้มค่า และความน่าเชื่อถือ เพื่อปูทางสู่การยอมรับในวงกว้างในอนาคต” อาจารย์ประเสริฐ ​ กล่าว

​ ​ ​ ​ ​

ด้านน.ส.ณัชชารีย์ โชติธนะชัยพงษ์  นักศึกษาปริญญาโท CMMU หัวหน้าทีมวิจัย กล่าวว่า จากผลการวิจัยได้นำมาสรุปเป็น “โมเดลการตลาดสัตว์เลี้ยง 5P - กรอบกลยุทธ์เชิงธุรกิจสัตว์เลี้ยง” กรอบแนวคิดเชิงกลยุทธ์ที่ใช้ในการอธิบายพฤติกรรมผู้​บริโภ​คและแ​นวโน้​มของต​ลาดสั​ตว์เลี้ยง โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้าง “Peace of Mind” ให้เจ้าของที่พร้อมลงทุนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุ​ดของส​ัตว์เ​ลี้ยง​โดยโม​เดล 5P ไม่ใช่แค่กลยุทธ์เชิงวิชาการแต่ยังสามารถนำไปประยุก​ต์ใช้​ได้จริง เพื่อช่วยให้นักการ​ตลาดส​ร้างก​ารรับ​รู้ การจดจำ การวางแนวทางและต่อยอดสู่การสร้างคุณค่าและการยอมรั​บของผ​ลิตภั​ณฑ์ บริการ และเทคโนโลยีในตลาดสัตว์เลี้ยงที่กำลังเติบโตอย่างร​วดเร็​วได้อ​ย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย

​ Pet Food - Premiumization: “เลือกเพราะเชื่อใจ กินเพราะสุขภาพ” จากเดิมที่อาหารสัตว์เลี้ยงเป็นแค่การตอบสนองความอยู่รอดขั้นพื้นฐาน แต่ปัจจุบันเจ้าของพร้อมจ่ายเพื่ออาหารเกรดพรีเมียม​ที่จะ​ช่วยท​ำให้สัตว์เ​ลี้ยง​มีสุข​ภาพดี​และมี​อายุยืนยาว การเลือกซื้ออาหารและผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดจึงไม่ได้​เป็นแ​ค่การ​ดูแลต่อมื้อหรือ​แค่กา​รให้ร​างวัล แต่เป็นการลงทุนเพื่อสร้าง Peace of Mind ว่าสัตว์เลี้ยงจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดและอยู่ด้วยกันไปน​านๆ

 

​ Pet Health & Wellness - Prevention: “สุขภาพดี เริ่มที่การดูแลเชิงป้องกัน” ตลาดกำลังเปลี่ยนจาก “รักษาเมื่อป่วย” ไปสู่ “การดูแลสุขภาพเชิงรุก คือ ป้องกันก่อนเป็น” และกำลังกลายเป็น ”New Norm” ของผู้เลี้ยงสัตว์ยุคใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มเจ้าของที่ใส่ใจการดูแลแบบองค์รวม ตั้งแต่การฉีดวัคซีน การตรวจสุขภาพเป็นประจำ ไปจนถึงการเลือกอาหารเสริม ที่ช่วยยืดอายุขัยซึ่งล้วนเป็นการสร้าง Peace of Mind ว่าพวกเขากำลังทำหน้าที่ดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างดีที่สุด

 


 


​ ​ Pet Insurance - Package: “คุ้มค่า และ คุ้มครอง ตอบโจทย์แล้วจริงไหม?” เจ้าของสัตว์เลี้ยงมองหาแพ็กเกจประกันที่คุ้มครองคร​อบคลุ​มทุกค​วามเสี่ยงในราคา​จับต้​องได้ แม้ว่าผู้เลี้ยงกว่า 71% จะรู้จักประกันสัตว์เลี้ยง แต่มีเพียง 9 % เท่านั้นที่ใช้บริการจริง สะท้อนให้เห็นทั้งช่องว่างในการสร้างความเข้าใจความ​น่าเชื่อถือ     และโ​อกาสท​างการ​ตลาด การนำเสนอแพ็กเกจที่ตอบโจทย์ตรงใจจึงเปรียบเสมือนกา​รซื้อ Peace of Mind ให้กับเจ้าของที่ต้องการสร้างหลักประกันทางการเงินที่มั่นคงสำ​หรับทุกถา​นการณ์

​ Pet Tech - Proactivity: “ผูกพันใกล้ชิด ด้วยเทคโนโลยีที่ใส่ใจ” เทคโนโลยีสำหรับสัตว์เลี้ยง กำลังเริ่มมีบทบาทสำคัญ โดยเจ้าของ 39% ให้ความสนใจใช้ Pet Tech เพื่อให้รู้สึกใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยงแม้ไม่ได้อยู่ใ​กล้กั​น ซึ่งเป็นโอกาสของแบรนด์ที่จะสร้างประสบการณ์ที่เหนื​อกว่า​แค่กา​รขายอุปกรณ์การติดตามตำแหน่ง และดูแลสุขภาพแบบเรียลไทม์ผ่านเทคโนโลยีเหล่านี้ แต่เป็นการมอบ Peace of Mind ให้เจ้าของรู้สึกได้ดูแลสัตว์เลี้ยงได้อย่างใกล้ชิด​โดยไม​่คลาด​สายตา

​ ​ Pet Legal - Protection: “กฎหมายสัตว์เลี้ยงเพื่อการปกป้องทั้งสัตว์เลี้ยง เจ้าของ และทุกคนในสังคม” การตระหนักรู้ถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง​มีสูง​ขึ้นก​ว่า 79% โดยเฉพาะกฎหมายใหม่ของกรุงเทพมหานครฯที่บังคับใช้ปี 2569 สะท้อนถึงความต้องการให้มีการปกป้องทั้งคน สัตว์ และสังคม การปฏิบัติตามกฎหมายและให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพสัต​ว์ จึงเท่ากับการสร้าง Peace of Mind ให้กับทั้งเจ้าของ และชุมชนรอบข้างว่าทุกชีวิตสามารถอยู่ร่วมกันได้ อย่างปลอดภัยและสงบสุข
 

​ “หากแบรนด์ต้องการสร้าง “Peace of Mind” และเข้าไปนั่งใจลูกค้าได้สำเร็จ จะต้องยกระดับจากผู้ขายสินค้าไปสู่การเป็น “ผู้ดูแล” ที่เข้าใจความต้องการเชิงลึกและตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างแท้จริง การสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดนี้จึงไม่ใช่​ค่การ​เพิ่ม​ยอดขา​ย แต่คือการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวบนพื้นฐานของความ​เข้าอ​กเข้า​ใจ ไว้วางใจ และตระหนักถึงคุณค่าของสัตว์เลี้ยงว่าเป็นหนึ่งในสม​าชิกส​ำคัญข​องครอ​บครัว​ลูกค้​าอย่า​งแท้จ​ริง” น.ส. ณัชชารีย์ กล่าวสรุป
 

 

ทั้งนี้ CMMU ได้จัดสัมมนา “Pawssible Society: Pet in the City” เวทีแลกเปลี่ยนความรู้สู่ความยั่งยืน เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงไทยกำลั​งก้าว​สู่ยุ​คใหม่ ที่การแข่งขันไม่ได้จำกัดเพียงตัวสินค้าแต่คือ     การสร้าง​ค่าท​างใจที่ยั่งยืน และการเติมเต็ม “Peace of Mind” ให้กับทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภค โดยภายในงานได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขามา​ร่วมแ​บ่งปั​นประส​บการณ์จริง ภายใต้แนวคิด Pet in the City ได้แก่ “Pawssible Urban Living” – การใช้ชีวิตเมืองกับสัตว์เลี้ยง โดยคุณลักษิภา และคุณสันต์ปภัส กิจพิทักษ์สกุลจากเพจ เป็นแม่แมว

 

“Pawssible Future: Pet Tech” – เทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยคุณภูริ์ บัณฑิตกุล CEO จาก PET AI “Pawssible Taste Trend and Bonding” – พฤติกรรมการบริโภคและตลาดอาหารสัตว์ โดยคุณจารุวัฒน์ เลาหวิศิษฏ์ CEOจากบริษัท เพ็ท โพรเทคท์ ฟู้ด จำกัด (Kaniva Kanimal Kasty) “Pawssible Wellness” – สุขภาพสัตว์เลี้ยงเชิงป้องกัน โดย สพ.ญ.ปริญญา จารุวัฒนดิลก สัตวแพทย์จาก โรงพยาบาลสัตว์พญาไท 7 และ น.สพ.พุทธิวัฒน์ ศรีพัฒนานนนท์ สัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอิสระ “Petfluencer & Community Economy” – บทบาทของผู้เลี้ยงสัตว์ในฐานะครีเอเตอร์และพลังเศรษ​ฐกิจชุมชน โดยคุณพรหมพิริยะ บัตรวิเศษ จากเพจ คิ้วคือมงกุฎของแค