เมื่อ : 17 ก.ค. 2568
อีกทั้งภาคเอกชนเห็นประโยชน์อาสาเข้ามาร่วมด้วยช่วยกัน ผู้บริหาร-ครู ประสานเสียงลูกศิษย์มีความสุข ที่สำคัญมีสมาธิ ทำให้ผลการเรียนดีขึ้นชัดเจน แถมมีค่าขนมด้วย

นายรองรักษ์ พนาปวุฒิกุล รองผู้จัดการสายงานบริหารกิจกรรมเพื่อสังคมฯ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้สนับสนุนมูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข หลายโครงการ หนึ่งในนั้นคือ โครงการดนตรีพลังบวก “เด็กภูมิดี” ที่เน้นการส่งเสริมให้เด็กขาดโอกาสได้เรียนดนตรี เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กๆ ห่างไกลจากยาเสพติดและอบายมุขต่าง ๆ โดยใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ รวมถึงสร้างภูมิปัญญาให้ท้องถิ่น ด้วยการใช้ดนตรีเป็นสื่อเชื่อมสายใยระหว่างเด็ก โรงเรียน ครอบครัว และชุมชน ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ เพราะทำให้เด็ก โรงเรียน ครอบครัว และชุมชน มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น โดยเด็กร่วมได้เข้าร่วมกิจกรรมประเพณีต่างๆกับทางชุมชน เด็กเองก็เกิดความภาคภูมิใจในตัวเอง ที่สำคัญเป็นการช่วยกันอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น

 

“เป็นที่ยินดีว่า ตอนนี้โครงการเด็กภูมิดีขยายไปยังหลายจังหวัด เพราะผู้บริหารโรงเรียน ครูและชุมชนต่างเห็นความสำคัญ และที่น่าดีใจไปกว่านั้นคือ สิ่งที่ตลาดหลักทรัพย์ฯสนับสนุนมูลนิธิอาจารย์ สุกรี เจริญสุข มีภาคเอกชนหลายรายเห็นประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับเยาวชนของชาติก็ได้เข้ามาร่วมด้วยช่วยกัน ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดี” นายรองรักษ์ กล่าว


รศ.ดร.สุกรี เจริญสุข ประธานมูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข แจกแจงรายะเอียดเกี่ยวกับโครงการดนตรีพลังบวก “เด็กภูมิดี”ว่า โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากมูนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงแรกเน้นช่วยพวกเด็กชาวเขา เด็กด้อยโอกาส เด็กชายขอบ และเด็กที่มีปัญหาด้านกายภาพ เพื่อนำดนตรีเป็นเพื่อนในชีวิต ช่วยสร้างจินตนาการ และแรงบันดาลใจต่างๆให้กับเด็กกลุ่มนี้ ต่อมานางสุพินดา มโนมัยพิบูลย์ ผู้จัดการมูลนิธิฯ เห็นว่าโรงเรียนประถมศึกษาจำนวนหนึ่งไม่มีครูสอนดนตรีโดยเฉพาะ ทำให้เด็กขาดโอกาส และเป็นโรงเรียนที่ครอบครัวนักเรียนยากลำบาก จึงได้เข้าไปช่วยเหลือโรงเรียนเหล่านี้ด้วยการส่งครูดนตรีไปช่วยสอน อย่างเช่นโรงเรียนวัดลาดทราย และโรงเรียนวัดกุฎีประสิทธิ์ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา โรงเรียนบ้านโป่งเจ็ด โรงเรียนอนุบาลบ้านคา และโรงเรียนน้ำตกห้วยสวนพลู อ.บ้านคา จ.ราชบุรี และตั้งเป็นวงดนตรี”เด็กภูมิดี”ของแต่ละจังหวัด


รศ.ดร.สุกรี กล่าวว่า ดนตรีเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้กับเด็กกลุ่มนี้ โดยเฉพาะเด็กชายขอบได้อาศัยดนตรีทำให้มีความเป็นคนเต็มคน ดนตรีไปเติมเต็ม ไปช่วยชโลมใจเด็กๆ ให้มีเพื่อนให้มีหุ้นส่วนของชีวิต การช่วยลักษณะนี้ก็มีความสุขแล้ว ขณะเดียวกันภาคเอกชนทั้งมูลนิธิตลาดหลักทรัพย์ฯ และมูลนิธิออมไทยเห็นก็เข้ามาสนับสนุนช่วยเหลือมูลนิธิ ถือเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่  เป็นการเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ทำให้โครงการอยู่ต่อมาจนกระทั่งปัจจุบัน

 

“เด็กภูมิดีมีโอกาส ฉลาดได้ อยู่ที่ครูช่วยนำทางสร้างวิถี เด็กสดใสใจบริสุทธิ์ปัญญาดี ภูมิเด็กดีมีครูนำสร้างทางเดิน” รศ.ดร.สุกรี กล่าว


นางอุทัยรัตน์ ศรีอนันต์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดลาดทราย กล่าวว่า โครงการ”เด็กภูมิดี”ดีมีประโยชน์เยอะมาก พ่อแม่ผู้ปกครองแฮปปี้ ตัวเด็กเองก็ตั้งใจเรียน ที่สำคัญเด็กได้สมาธิ ซึ่งส่งผลดีต่อการเรียน และความรู้ความสามารถทางดนตรีนำไปประกอบอาชีพได้ ตอนนี้ผู้คนเริ่มเห็นแล้ว วัดมีงานอะไรก็จะมาเชิญไป  ทำให้เด็กได้เข้าร่วมกิจกรรมกับสังคม จึงอยากให้มีโครงการนี้ต่อเนื่อง โรงเรียนมีนักเรียนทั้งหมด 276 คน สำหรับเด็กที่เข้าร่วมโครงการเป็นเด็กชั้นประถมปลาย ป.4 ป.5 ป.6 ซึ่งโรงเรียนเองมีเครื่องดนตรีไทยพร้อมอยู่แล้ว แต่ไม่มีครูเอกดนตรีไทยมาสอน  ที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนจากอบต.จ้างครูดนตรีมาช่วยสอนสัปดาห์ละครั้ง แต่ก็ยังไม่เพียงพอต้องอาทิตย์ละ 2 ครั้ง กำลังดี


“เด็กๆชอบ มีความสุขและมีความตื่นตัวมาก หลังจากนี้ตั้งเป้าจะให้วงดนตรีเด็กภูมิดีไปออกงานชุมชนต่างๆให้มากขึ้น เพราะในวงมีทั้งรำและมีทั้งดนตรีพร้อม ถือเป็นการอนุรักษ์ดนตรีไทย เป็น Soft Power อย่างหนึ่ง”นางอุทัยรัตน์ กล่าว

 

นายวีระพงศ์ กู้เงิน ครูผู้รับผิดชอบโครงการเด็กภูมิดีโรงเรียนวัดลาดทราย กล่าวว่า โรงเรียนเข้าร่วมโครงการกับทางมูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข ตั้งเเต่ปี 2557 เพราะมีเครื่องดนตรีไทยเเต่ไม่มีครูสอนดนตรีไทย ทางมูลนิธิฯจึงจัดหาครูดนตรีไทยมาสอนให้ ก่อนเกิดโควิด19 วงเด็กภูมิดีของโรงเรียนได้ออกงานต่างๆทั้งงานเเต่ง งานศพ ผู้ปกครองก็เห็นเด็กเล่นทุกวันพระที่วัดลาดทราย ชาวบ้านก็นำเงินมาหย่อนตู้บริจาค ทางโรงเรียนจะเเบ่งเงินให้เด็ก  ผู้ปกครองก็จะได้รู้ว่าเด็กมีค่าขนม บางวันได้เฉลี่ยคนละ 100 บาท เด็กสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องขอเงินพ่อเเม่เลย แต่พอเจอโควิด19 ทุกอย่างก็ชะงักไป จึงต้องมาเริ่มต้นกันใหม่


นายวีระพงศ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้สมาชิกวงเด็กภูมิดีของโรงเรียน ยังไปประกวดดนตรีศรทองเข้ารอบชิงชนะเลิศ ตอนนี้ลูกศิษย์คนหนึ่งไปเรียนด้านดนตรีไทย ที่มหาวิทยาลัยศิลปากร ใช้โควต้าดนตรีไทยเข้าเรียน ถือว่าเป็นผลพลอยได้ที่เด็กได้เรียนดนตรีไทย

 

“เด็กที่เข้าร่วมวงดนตรีไทยส่วนมาก มีสมาธิ ผลการเรียนดีขึ้น เด็กบางคนสอบเข้าโรงเรียนดีๆได้ สาธิตหรือโรงเรียนประจำจังหวัด อย่างปีนี้ล่าสุดผลการสอบ O-NET วิชาวิทยาศาสตร์ เเละภาษาไทย คะเเนนสูงกว่าระดับประเทศ ในส่วนของผู้ปกครองมีความภาคภูมิใจและมีความสุขที่เห็นลูกตัวเองไปเล่นตามงานต่างๆจึงอยากให้ทางมูลนิธิตลาดหลักทรัพย์ฯสนับสนุนโครงการนี้ต่อเนื่อง” นายวีระพงศ์ กล่าว

นางอภิสรา ลมลอย ครูโรงเรียนวัดกุฎีประสิทธิ์  กล่าวว่า โรงเรียนมีเด็กทั้งหมด 102 คน ไม่มีครูสอนดนตรีเฉพาะ เข้าร่วมโครงการเด็กภูมิดีเมื่อปี 2562 ผลดีชัดเจนเลยคือเด็กที่เข้าโครงการประมาณ 30 คนมีสมาธิในการเรียนมากขึ้น และมีความรู้เรื่องดนตรีมีความสามารถพิเศษทางด้านนี้ ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของเด็กเเละผู้ปกครอง เพราะที่บ้านของเด็กไม่มีเครื่องดนตรีเหล่านี้ เนื่องจากราคาเเพง และเมื่อส่งเข้าเเข่งขันในงานศิลปหัตถกรรมก็ได้ไปถึงระดับอำเภอได้เหรียญทองกลับมา ชนะโรงเรียนขนาดใหญ่บางโรงที่มีครูดนตรีสอน


ด.ญ.ณัฐฐา แสงเปล่งปลั่ง น้องข้าวฟ่าง ชั้น ป.4 โรงเรียนวัดลาดทราย กล่าวว่า เข้าร่วมโครงการเด็กภูมิดี ในปีนี้เพราะอยากเล่นระนาดทุ้ม การเรียนดนตรีไทยทำให้มีสมาธิมากขึ้น โครงการนี้ดีมาก ทำให้มีสมาธิมากขึ้นจดจ่อกับสิ่งที่ทำมากขึ้น และได้พื้นฐานการเล่นดนตรี คุณพ่อคุณแม่ก็สนับสนุน ตอนนี้ตีระนาดทุ้มต่อไปอยากฝึกตีระนาดเอก และคิดว่าจะใช้ประโยชน์จากการเล่นดนตรีไทยนี้ไปประกอบอาชีพ ในอนาคตอยากเป็นครูสอนดนตรีด้วย

ด.ช นภสร  หายทุกข์ ชั้น ป.6  โรงเรียนวัดลาดทราย กล่าวว่า โครงการนี้ดี การเล่นดนตรีได้ประโยชน์ได้ฝึกสมอง ฝึกจำตัวโน้ตและตีเพลงให้เข้ากับจังหวะ ทั้งได้ฝึกสมาธิ ทางบ้านก็สนับสนุน ตนเองตีฉิ่งและกลองยาว  ฝึกซ้อมกันทุกวัน แต่ใน 1 สัปดาห์ครูมาสอนวันเดียว จากนั้นฝึกซ้อมกันเอง การมาร่วมโครงการนี้ยังทำให้ได้เพื่อนด้วย คิดว่าจะนำความรู้ด้านดนตรีไทยไปต่อยอดด้วยการสร้างอาชีพในอนาคต อย่างเช่นเล่นดนตรีเปิดหมวก


ด.ญ.ลภัสรดา ไกรสูตร ชั้น ป.5 โรงเรียนวัดกุฎีประสิทธิ์ กล่าวว่า เข้าร่วมโครงการเด็กภูมิดี ตอน ป.4 สนุกและได้ความรู้เรื่องดนตรี ตนเองเล่นระนาดเอก นอกจากทำให้ตีระนาดเก่งขึ้นแล้วก็ได้รู้จักเพื่อนๆ จากโรงเรียนวัดลาดทรายด้วย โครงการนี้ดีอยากให้มีต่อไปเรื่อยๆ


ด.ช.ภูวเดช ฉลาดดี ชั้น ป.5 โรงเรียนวัดกุฎีประสิทธิ์ กล่าวว่า เข้าร่วมโครงการเด็กภูมิดีตั้งแต่ตอนอยู่ชั้น ป.4 รวม2 ปี สนุกดี ได้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องดนตรีไทย ตนเองเล่นกลอง อยากให้มีโครงการนี้ต่อไปเพราะได้รับประโยชน์มาก คุณพ่อคุณแม่ก็สนับสนุน