วช.จัดงานครบรอบ 65 ปี “บูรณาการความรู้ เชิดชูนักวิจัย สร้างอนาคตไทย ด้วยวิจัยและนวัตกรรม”

เมื่อวันที่ 21 ต.ค. สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) จัดงานเนื่องในโอกาสที่ วช. ครบรอบ 65 ปี ภายใต้แนวคิด “65 ปี บูรณาการความรู้ เชิดชูนักวิจัย สร้างอนาคตไทย ด้วยวิจัยและนวัตกรรม” โดยได้รับเกียรติจาก ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวงอว. กล่าวเปิดงาน: วช. กับการขับเคลื่อน อว. พร้อมมอบรางวัล NRCT Award และรางวัลแก่ผู้ชนะเลิศตราสัญลักษณ์ และการประกวดคำขวัญ รวมทั้งมอบกายอุปกรณ์แก่ผู้พิการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้พิการ เนื่องในโอกาสที่ วช. ครบรอบ 65 ปี

ศ.กิตติคุณ นพ.สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กล่าวแสดงความยินดี: ความสำเร็จของ วช. จากอดีตสู่ปัจจุบัน พร้อมนี้ ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อํานวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวต้อนรับ: วช. Forward to the Future

กิจกรรมในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเผยแพร่บทบาทและภารกิจของ วช. ในการสนับสนุนและบริหารจัดการทุนวิจัยของประเทศ รวมถึงการนำเสนอผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่มีศักยภาพต่อสาธารณชน เพื่อส่งเสริมให้ภาคประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้ประโยชน์จากการวิจัยและนวัตกรรมได้เล็งเห็นถึงบทบาทและความสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาการนํางานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาประเทศและเศรษฐกิจ ที่ วช. ปฏิบัติมาตลอดระยะเวลา 65 ปี ซึ่งในพิธีเปิดงานได้มีการแสดงเชิงวัฒนธรรม “ดนตรีของชาติ: ไทยใหม่” โดยวงไทยซิมโฟนีออร์เคสตรา จาก มูลนิธิอาจาย์สุกรี เจริญสุข และหุ่นมีชีวิต “หุ่นละครเล็กโจหลุยส์” พร้อมรังสรรค์ภาพจิตรกรรม โดย ดร.สุชาติ วงษ์ทอง ศิลปินแห่งชาติ ที่อาคาร วช. 1

ศ.ดร.ศุภชัย กล่าวว่า กระทรวง อว. มีนโยบายในการขับเคลื่อนและยกระดับการพัฒนาทั้งด้านการอุดมศึกษา ด้านวิทยาศาสตร์ และด้านวิจัยและนวัตกรรม โดยในด้านวิจัยและนวัตกรรมได้มีกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเพื่อดูแลในการจัดสรรงบประมาณการวิจัยและนวัตกรรมให้กับประเทศ ซึ่งสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการทำงานด้านการวิจัยและนวัตกรรมมาอย่างต่อเนื่องหลายทศวรรษ รวมถึงได้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาขีดความสามารถในการวิจัยของประเทศให้สูงขึ้น สร้างฐานความรู้ที่มีคุณค่าสามารถประยุกต์และพัฒนาวิทยาการที่เหมาะสม รวมทั้งต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์ ทั้งในเชิงพาณิชย์ สังคม และสาธารณะ โดยใช้ทรัพยากรเครือข่ายวิจัยอย่างมีประสิทธิภาพ มีการผนึกกำลังการทำงานร่วมกับหลายภาคส่วน รวมทั้งมีนโยบายสนับสนุนและส่งเสริมการผลิตนักวิจัยที่ดีมีคุณภาพ และที่สำคัญคือการกำหนดแนวทางการวิจัยที่สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศ จึงนับได้ว่า วช. เป็นอีกหนึ่งแรงสำคัญในการช่วยสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายในการดำเนินงานของกระทรวง อว. ร่วมกับการทำงานกับภาคีเครือข่ายทั้งภายในกระทรวง อว. และภายนอกกระทรวงในโอกาสที่สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ได้สถาปนามาครบรอบ 65 ปี ในปีนี้

“ขอขอบคุณคณะผู้บริหาร ข้าราชการ พนักงาน และ เจ้าหน้าที่ของ วช. ทุกท่านที่มุ่งมั่น ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ในการพัฒนางานด้านการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศให้มีความก้าวหน้า และเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า วช. จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อน อว. เพื่อสร้างอนาคตของประเทศ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นได้ ต่อไป”

ศ.กิตติคุณ นพ.สุทธิพร กล่าวว่า ในโอกาสอันเป็นมงคลที่สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ครบรอบ 65 ปีนี้ ในฐานะที่เคยได้ทำงานใกล้ชิดกับ วช. ในช่วงที่เป็นเลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ในฐานะหน่วยงานนโยบาย มีความทรงจำที่ดีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือกันของหน่วยงานต่าง ๆ และได้เห็นถึงการเติบโตและพัฒนาขององค์กรอย่างต่อเนื่อง วช. เป็นเสมือนรากฐานสำคัญที่ช่วยผลักดันและสนับสนุนงานวิจัยของประเทศไทยให้ก้าวหน้ามาโดยตลอด ตั้งแต่การวิจัยมุ่งเป้า การดำเนินงานงบบูรณาการ โครงการท้าทายไทย โครงการ spearhead จนปรับองค์กรมาเป็นหน่วยบริหารจัดการงานวิจัย หรือ PMU โดยการนำของ ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง การเดินทางของ วช. ตั้งแต่วันที่ก่อตั้งจนถึงวันนี้ ต้องผ่านอุปสรรคและความท้าทายมามากมาย แต่สิ่งที่ทำให้ผ่านพ้นและเติบโตขึ้น คือความมุ่งมั่นและความเชื่อมั่นในพลังของการวิจัยเพื่อพัฒนาประเทศ ในวันนี้ได้เห็นถึงความสำเร็จของนักวิจัยไทยที่ได้นำพาองค์ความรู้และนวัตกรรมใหม่ ๆ มาสู่สังคมไทยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมที่ช่วยแก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมทุกสิ่งเหล่านี้เป็นหลักฐานที่แสดงถึงความทุ่มเทของนักวิจัยไทยและการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจาก วช. และหน่วยงานในระบบวิจัยที่ร่วมกันขับเคลื่อนอย่างเข้มแข็ง

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อํานวยการวช. กล่าวว่า ในนามของวช. ขอต้อนรับคณะผู้บริหาร ผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิจัย แขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชน เข้าสู่พิธีเปิดงานเนื่องในโอกาสครบรอบ 65 ปีของวช.  ซึ่งในโอกาสอันเป็นมงคลนี้ ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ทุกท่านได้มาร่วมยินดีกับวาระการครบรอบ 65 ปี ของวช. ในวันนี้ ปัจจุบันวช. เป็นหน่วยงานราชการภายใต้กระทรวงอว. ทำหน้าที่ในการบริหารจัดการการวิจัยและนวัตกรรมแก่หน่วยงานในระบบวิจัย โดยการสนับสนุนของกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยส่งเสริมการวิจัยและนวัตกรรมทั้ง ด้านวิทยาศาสตร์ และด้านสังคมศาสตร์ วช. มีความมุ่งมั่นในการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับประเทศไทย โดยมุ่งหวังให้คนไทยทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและสามารถเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ ซึ่ง วช. มีเป้าหมายและแนวทางในการสนับสนุนงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อร่วมสร้างอนาตคของประเทศ ดังนี้ 1) การสร้างองค์ความรู้ 2)  การแก้ไขปัญหาท้าทาย 3) การแก้ไขปัญหาสังคม 4) การพัฒนานวัตกรรม และ 5) การพัฒนาบุคลากรวิจัย ในนามของวช. ทั้งนี้ขอขอบคุณ คณะผู้บริหารของกระทรวง อว. คณะผู้บริหารจากหน่วยงานและสถาบันการศึกษาทุกแห่ง ผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิจัย และผู้สนับสนุนทุกท่านที่มาร่วมแสดงความยินดีในโอกาสที่สำนักงานการวิจัยแห่งชาติครบรอบ 65 ปี พลังการสนับสนุนและความเชื่อมั่น จะเป็นพลังสำคัญที่ช่วยผลักดันให้สำนักงานการวิจัยแห่งชาติก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับ วช. เพื่อสร้างสรรค์ผลงานอันมีคุณค่าและเป็นประโยชน์ในการพัฒนาประเทศต่อไป

พิธีมอบรางวัลแก่ผู้ชนะเลิศตราสัญลักษณ์ และการประกวดคำขวัญ เนื่องในโอกาสที่ วช. ครบรอบ 65 ปี รางวัลชนะเลิศประกวดตราสัญลักษณ์ ได้แก่ น.ส.กรรณิกา ดุรงคเดช ผู้อำนวยการภารกิจการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รางวัลชนะเลิศประกวดคำขวัญ ได้แก่ น.ส.ชนัญญา ปาลีดา ภารกิจการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศด้านการเตรียมรับสังคมสูงวัยกองบริหารทรัพยากรการวิจัยและนวัตกรรม

พิธีมอบกายอุปกรณ์แก่ผู้พิการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้พิการ ภายใต้โครงการ “ก้าวใหม่ด้วยวิจัยและนวัตกรรม” เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ โดย ศ.ดร.ศุภชัยฯ  และดร.วิภารัตน์ฯ เป็นผู้มอบให้กับ โรงพยาบาลทหารผ่านศึก โดยมีพล.อ.เดชนิธิศ เหลืองงามขำ ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก พร้อมกับตัวแทนผู้พิการ เป็นผู้รับมอบนวัตกรรมพร้อมใช้ประโยชน์นี้

ทั้งนี้ หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ร่วมแสดงความยินดี เนื่องในโอกาส วช. ครบรอบ 65 ปี กิจกรรมในครั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ วช. ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน และการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับประเทศไทยผ่านการวิจัยและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง