ภาพยนตร์“สายใยรักสองแผ่นดิน” เปิดตัวยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลอง 50 ปี มิตรภาพไทย-จีน

สมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน จับมือมูลนิธิปัญญาวุฒิ สร้างภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ สะท้อนความสัมพันธ์ครึ่งศตวรรษ เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน
เมื่อวันที่ 24 เม.ย. สมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน และมูลนิธิปัญญาวุฒิ จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการภาพยนตร์ ”สายใยรักสองแผ่นดิน: 50 ปี สายใยมิตรภาพไทย-จีน” ที่โรงแรมแม่น้ำรามาดาพลาซา กรุงเทพฯโดยมี นายกร ทัพพะรังสี นายกสมาคมมิตรภาพไทย-จีน เป็นประธานในพิธี และร่วมปาฐกถาในหัวข้อ ”เบื้องลึก-เบื้องหลัง การสถาปนาความสัมพันธ์ไทย-จีน” และมีบุคคลสำคัญในวงการสื่อและวัฒนธรรมไทย-จีน อาทิ นายชิบ จิตนิยม วุฒิสมาชิกจากสายสื่อมวลชน และเลขาธิการสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน ผู้คร่ำหวอดในแวดวงข่าวต่างประเทศ อดีตเจ้าของรายการ ”จับจ้องมองจีน” ที่มีความรู้ลึกและความผูกพันแนบแน่นกับประวัติศาสตร์และพัฒนาการของประเทศจีน รวมถึงสื่อมวลชนอาวุโสที่มาร่วมงานแถลงข่าว เพื่อเตรียมเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-จีน

นายกร กล่าวปาฐกถาตอนหนึ่งว่า ในขณะที่ตนดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะผู้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์เมื่อครั้งการลงนามในแถลงการณ์ร่วมเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2518
นายกร ได้ย้อนเล่าถึงจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ว่า การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศเกิดขึ้นในช่วงที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเผชิญกับการแพร่ขยายของลัทธิคอมมิวนิสต์ และประเทศไทยกำลังเผชิญภัยคุกคามจากประเทศเพื่อนบ้าน
”ในฐานะที่ผมอยู่ใกล้ชิดกับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้ สามารถพูดได้เต็มปากว่ารัฐบาลจีนให้เกียรติและให้ความเป็นกันเองกับรัฐบาลไทยอย่างมาก เนื่องจากตามธรรมเนียมปฏิบัติ ผู้นำระดับสูงของจีนจะไม่ยอมพบเจรจากับผู้นำรัฐบาลอื่นใดที่ยังมีความสัมพันธ์ทางการทูตอยู่กับไต้หวัน แต่กรณีประเทศไทยได้รับการยกเว้นเป็นพิเศษ” นายกร กล่าว
นายกร เปิดเผยว่า หลังการลงนามในแถลงการณ์ร่วม นายกรัฐมนตรีโจว เอินไหล ได้บอกกับ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในขณะนั้นว่า การลงนามเป็นเพียงพันธสัญญาระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาล ซึ่งควรขยายไปสู่ความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศด้วย จึงเป็นที่มาของการก่อตั้งสมาคมมิตรภาพไทย-จีน โดย พล.อ.ชาติชาย เป็นนายกสมาคมคนแรก และตนเป็นนายกสมาคมคนที่สอง ดำรงตำแหน่งต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
”ตลอดระยะเวลานับตั้งแต่ประเทศไทยกับจีนสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน จนถึงทุกวันนี้ ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศได้เจริญก้าวหน้าอย่างมาก ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งระดับราชวงศ์ไปจนถึงภาคประชาชนทุกสาขาอาชีพ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ายินดีอย่างยิ่ง” นายกร กล่าวเสริม

ด้าน ดร.กำพล มหานุกูล นายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน กล่าวว่า โครงการจัดทำภาพยนตร์เพื่อเฉลิมฉลอง 50 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีนนี้ เป็นกิจกรรมที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง และจะมีส่วนสำคัญในการสื่อสารเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศยั่งยืนมาถึง 50 ปี
”ผมต้องขอขอบคุณผู้มีอุปการคุณทุกท่านที่มองเห็นคุณค่าและความสำคัญของโครงการนี้ และให้การสนับสนุนค่าใช้จ่ายเพื่อผลักดันให้โครงการนี้สามารถเดินหน้าไปได้” ดร.กำพล กล่าว
ด้าน นายศักดิ์ชัย พฤฒิภัค เลขานุการมูลนิธิปัญญาวุฒิ เผยว่า โครงการภาพยนตร์นี้ถูกจุดประกายขึ้นในช่วงปลายปี 2567 และได้หารือกับนายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน เพื่อขับเคลื่อนโครงการ โดยได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ให้นำเสนอเรื่องราว 50 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน ในรูปแบบภาพยนตร์อิงความจริงที่เข้าถึงได้ง่ายและให้สาระความรู้
”คำแนะนำของเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย คือที่มาของภาพยนตร์ สายใยรักสองแผ่นดิน ซึ่งทั้งสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน และมูลนิธิปัญญาวุฒิต่างเห็นพ้องกันที่จะเชิญชวนผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะมาร่วมสร้างสรรค์ผลงาน” นายศักดิ์ชัย กล่าว

ด้าน นายชิบ กล่าวถึงข้อมูลที่นายกร เล่ามาว่า สถานการณ์วิกฤตในปี พ.ศ. 2518 เป็นช่วงที่ประเทศไทยตกอยู่ในสถานการณ์ที่เปราะบางอย่างยิ่ง
”เพื่อนบ้านของเราถูกคอมมิวนิสต์ยึดครองอย่างเบ็ดเสร็จ ในขณะที่สหรัฐอเมริกาถอนตัวออกจากภูมิภาคอย่างไม่คาดคิด และขบวนรถถังนับร้อยได้เคลื่อนพลประชิดชายแดน พร้อมที่จะเคลื่อนทัพเข้าสู่กรุงเทพฯ สถานการณ์เหล่านี้ผลักดันให้ พล.อ.ชาติชาย ตัดสินใจเดินทางไปจีนเพื่อเจรจา แม้ว่าจีนในขณะนั้นจะยังไม่รับรองประเทศที่ยังคงให้การรับรองไต้หวัน และไทยต้องดำเนินการปิดสถานทูตไต้หวันก่อนการเจรจา ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ แม้แต่ ท่านม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ยังตั้งคำถามกับ พล.อ.ชาติชาย ว่า จีนเขาจะต้อนรับคุณหรือ แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็บังเกิดขึ้น เมื่อนายกรัฐมนตรีโจว เอินไหล ของจีนยอมอ้าแขนต้อนรับ พล.อ.ชาติชาย อย่างอบอุ่น เพราะความสัมพันธ์ส่วนตัวในอดีตที่ท่านโจว เอินไหล ทราบว่าท่านชาติชายเป็น ลูกชายของเพื่อนเก่า คือ จอมพลผิน ชุณหะวัณ ผู้เคยร่วมรบและให้การสนับสนุนกองทัพจีนในสมรภูมิเชียงตุง”
นายชิบ กล่าวว่า ความสัมพันธ์อันดีในอดีตนี้เองที่นำไปสู่การเจรจาที่ประสบความสำเร็จ และวางรากฐานความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไทย-จีน จนเกิดเป็นวลี ”ไทยจีนใช่อื่นไกล พี่น้องกัน”
นายชิบ กล่าวอีกว่า เรื่องราวนี้เป็นบทเรียนทางประวัติศาสตร์ที่คนไทยควรจารึกไว้ในความทรงจำ และภาพยนตร์ ”สายใยรักสองแผ่นดิน: 50 ปี สายใยมิตรภาพไทย-จีน” จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการนำเสนอเรื่องราวอันทรงคุณค่านี้สู่สาธารณชน

นายปรัชญา ปิ่นแก้ว ผู้กำกับภาพยนตร์ เปิดเผยว่า การทำภาพยนตร์อิงความจริงทางประวัติศาสตร์ 50 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน เป็นโจทย์ที่ท้าทายอย่างมาก เนื่องจากเป็นหนังพีเรียดย้อนยุคและมีความต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ซึ่งทีมงานต้องค้นคว้าข้อมูลย้อนกลับไป 50 ปี และต้องคัดสรรนักแสดงที่จะมารับบทให้สมจริง
ด้าน ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ คณบดีคณะดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้รับผิดชอบการประพันธ์ดนตรีประกอบภาพยนตร์ ชี้แจงว่า การทำดนตรีประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้มีความท้าทายเป็นอย่างมาก เนื่องจากต้องออกแบบให้ดนตรีมีจังหวะที่ล้อไปกับภาพยนตร์ และต้องผสมผสานดนตรีไทย ดนตรีจีน และดนตรีสากล ให้ผู้ชมเกิดความรู้สึกซาบซึ้ง
ทั้งนี้ ภาพยนตร์ ”สายใยรักสองแผ่นดิน” จะนำเสนอเรื่องราวความสัมพันธ์ไทย-จีน ตั้งแต่จุดเริ่มต้นเมื่อ 50 ปีก่อน ซึ่งเกิดขึ้นในบริบทที่ประเทศไทยกำลังเผชิญปัญหาคอมมิวนิสต์ และการสถาปนาความสัมพันธ์กับจีนเป็นเสมือน ”ยันต์เกราะเพชร” คุ้มกันประเทศไทยจากภัยคุกคามจากประเทศเพื่อนบ้าน ไปจนถึงพัฒนาการความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในปัจจุบัน โดยมีกำหนดฉายในช่วงเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน กลางปีนี้
#สมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน #มูลนิธิปัญญาวุฒิ #โครงการภาพยนตร์ ”สายใยรักสองแผ่นดิน: 50 ปี สายใยมิตรภาพไทย-จีน” #สมาคมมิตรภาพไทย-จีน
