ประกาศขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมปี ๖๗ จำนวน ๑๐ รายการ นำโดยบุญเดือน ๓ นมัสการพระธาตุพนม -ตำนานสุบินกุมาร นครปฐม - เพลงทรงเครื่อง ชัยนาท

รมว.วธ. พร้อมมอบนโยบายการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ขับเคลื่อนเป็น Soft Power ของไทยให้เป็นที่รู้จักระดับสากล
เมื่อวันที่ 9 เม.ย. น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) มอบหมายให้ นายประสพ เรียงเงิน ปลัดวธ. เป็นประธานในพิธีประกาศขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๗ โดยมี นางยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา
รองปลัดวธ. (รักษาราชการแทนอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม) ผู้บริหารวธ. ผู้ว่าราชการจังหวัด คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และชุมชนผู้สืบทอดมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม เข้าร่วมงาน ที่หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

นายประสพ กล่าวว่า “มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ถือเป็นสมบัติของชาติที่สะท้อนให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ วิถีชีวิต ความเชื่อและภูมิปัญญา ที่ได้รับการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น จนหล่อหลอมเป็นอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่งดงามและเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ทั้งนี้ การอนุรักษ์และส่งเสริมมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อน Soft Power ของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล พร้อมทั้งเป็นกลไกในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ”

นายประสพ เปิดเผยว่า วธ. โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ไดประกาศขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการบันทึกองค์ความรู้และอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่า สร้างความภาคภูมิใจให้กับชุมชน และส่งเสริมความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายในการอนุรักษ์และสืบทอดมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมให้คงอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน สำหรับปี พ.ศ. ๒๕๖๗ คณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ได้มีมติประกาศขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม จำนวน ๑๐ รายการ แบ่งเป็น ๒ ประเภท ได้แก่
๑.รายการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่ต้องได้รับการส่งเสริมและรักษาอย่างเร่งด่วน
1.1 สาขาวรรณกรรมพื้นบ้านและภาษา ได้แก่ ตำนานสุบินกุมาร จ.นครปฐม
1.2 สาขาศิลปะการแสดง ได้แก่ เพลงทรงเครื่อง จ.ชัยนาท
1.3 สาขางานช่างฝีมือดั้งเดิม ได้แก่ ผ้าเกาะโส้ จ.นครพนม
1.4 สาขาการเล่นพื้นบ้าน กีฬาพื้นบ้าน และศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว ได้แก่ ยิงคันกระสุน จ.อุทัยธานี
๒.รายการตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม
2.1 สาขาวรรณกรรมพื้นบ้านและภาษา ได้แก่ (1) ตำนานพระนางสร้อยดอกหมาก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ (๒) ตำนานเขานางหงส์ จ.พังงา
2.2 สาขาศิลปะการแสดง ได้แก่ เรือมอันเร จ.สุรินทร์
2.3 สาขาแนวปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล ได้แก่ บุญเดือน ๓ นมัสการพระธาตุพนม จ.นครพนม
2.4 สาขางานช่างฝีมือดั้งเดิม ได้แก่ เสื่อกกจันทบูร จ.จันทบุรี และผ้าหม้อห้อม จ.แพร่

นายประสพ กล่าวอีกว่า การขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมและคุ้มครองมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ กระทรวงวัฒนธรรมขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และพัฒนามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมให้คงอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน เพื่อเป็นรากฐานในการเสริมสร้างความภาคภูมิใจของชาติและส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศไทยในอนาคต

ด้านนางยุถิกา กล่าวเสริมว่า การประกาศขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมในครั้งนี้ นับเป็นมาตรการสำคัญที่ช่วยบันทึกหลักฐานและสาระสำคัญของมรดกภูมิปัญญาไทย เพื่อสร้างความตระหนักรู้และ
ความภาคภูมิใจแก่ชุมชน องค์กร และหน่วยงานที่มีบทบาทในการสืบทอดภูมิปัญญาเหล่านี้ นอกจากนี้ กรมส่งเสริมวัฒนธรรมยังได้จัดกิจกรรมเผยแพร่ข้อมูล อาทิ นิทรรศการ การแสดง และการสาธิตทางวัฒนธรรม ซึ่งครอบคลุมทั้งวรรณกรรมพื้นบ้าน ศิลปะการแสดง งานช่างฝีมือดั้งเดิม ตลอดจนพิธีกรรมและเทศกาลที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ อันจะเป็นการส่งเสริมให้มรดกภูมิปัญญาของชาติได้รับการอนุรักษ์และถ่ายทอไปยังคนรุ่นต่อไปอย่างต่อเนื่อง

#มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม #Soft Power