เมื่อ : 18 พ.ย. 2568

มะนาว (Lime) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Citrus aurantifolia (Christm. et Panz.) Swing หรือ Citrus Aurantifolia Swing เป็นพืชสวน ซึ่งในอดีตเป็นไม้ที่ปลูกไว้เพื่อใช้ผลในการนำมาปรุงรสอาหาร ปัจจุบันการบริโภคมะนาวได้พัฒนาไปสู่การเป็นเครื่องดื่ม เป็นวัตถุปรุงรสทั้งในครัวเรือนและในอุตสาหกรรมอาหาร แต่ราคาจำหน่ายผลมะนาวมีความผันผวน โดยมีทั้งช่วงราคาแพงและราคาที่ถูกมาก ซึ่งส่งผลกระทบให้เกษตรกรขายมะนาวได้ในราคาต่ำ 


เกิดภาวะมะนาวล้นตลาด ดังนั้นอุตสาหกรรมผลิตน้ำมะนาวแช่แข็งจึงมีบทบาทในการช่วยเหลือเกษตรกรให้สามารถจำหน่ายได้ในราคาเหมาะสม แต่ในกระบวนการผลิตมะนาวแช่แข็ง จะมีกากเปลือกมะนาวเป็นของเหลือทิ้ง ที่เป็นปัญหาและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและ Climate change ดร.ขนิษฐา ชวนะนรเศรษฐ์ นักวิจัย ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพร (ศนส.) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในฐานะที่ปรึกษาโครงการหลัก 

 

ทั้งนี้ ได้เล็งเห็นความสำคัญในการแก้ปัญหาและเพิ่มมูลค่าเปลือกมะนาวและไลม์ไฮโดรซอล ที่เป็นผลผลิตพลอยได้จากกระบวนการกลั่นน้ำมันหอมระเหยจากเปลือกมะนาว นำมาเป็นวัตถุดิบในการพัฒนาต่อยอดสู่การผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางใหม่ที่ได้มาตรฐานสากล โดยมี ดร.สิทธิพงศ์ สรเดช นักวิจัยอาวุโส ศนส.วว. เป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีไมโครอิมัลชั่นและเครื่องสำอาง จึงได้จับมือกับภาคอุตสาหกรรม นายวิวัฒน์ พริ้งจำรัส กรรมการผู้จัดการ บริษัท เลม่อนโกลด์ (แอล. เอ็ม. จี) จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจด้านอุตสาหกรรมผลิตน้ำมะนาวแช่แข็ง ที่ต.ท่าไม้ลวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ซึ่งได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ปี 2568 

 

ภายใต้การดำเนิน “โครงการการพัฒนาผลิตภัณฑ์สเปรย์ให้ความสดชื่นและบํารุงหนา้จากผลผลิตพลอยได้จากกระบวนการผลิตน้ำมะนาวโดยใช้เทคโนโลยีไมโครอิมัลชั่น” โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก หน่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อสังคม ประจำพื้นที่ภาคตะวันตก ปีงบประมาณ 2568 มหาวิทยาลัยราชภัฏ(มรภ.)กาญจนบุรี 

 

ผลสำเร็จของโครงการฯ ได้พัฒนา “ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางต้นแบบจากนวัตกรรมไมโครอิมัลชั่นของไลม์ไฮโดรซอลและน้ำมันหอมระเหยจากเปลือกมะนาวผสมผสานกับน้ำมะนาว” ซึ่งส่งผลให้เกษตรกรพื้นที่จ.เพชรบุรีและพื้นที่ภาคตะวันตกของประเทศไทย มีช่องทางในการจำหน่ายผลผลิตมะนาวเข้าสู่ท้องตลาดและในกระบวนการผลิตน้ำมะนาวมากขึ้น เป็นการเพิ่มมูลค่าและห่วงโซ่คุณค่าของมะนาวและผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางด้วย

​โครงการการพัฒนาผลิตภัณฑ์สเปรย์ฯ เป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาของประเทศในด้านปัญหามะนาวราคาตกต่ำ แก้ปัญหาและเพิ่มมูลค่าเปลือกมะนาว รวมทั้งการใช้ประโยชน์ผลผลิตพลอยได้ของวัตถุดิบน้ำมันหอมระเหยจากเปลือกมะนาว น้ำมะนาว และ “ไลม์ ไฮโดรซอล” จากกระบวนการผลิต โดยใช้เทคโนโลยีไมโครอิมัลชั่น ได้ผลผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง Facial Mist ที่มีคุณภาพจากนวัตกรรมไมโครอิมัลชั่น

ผลการวิเคราะห์ทดสอบวัตถุดิบหลักตามมาตรฐานสากลของเครื่องสำอาง Certificate of analysis การทดสอบปนเปื้อนจุลินทรีย์และโลหะหนักผ่านมาตรฐานเครื่องสำอาง ผลการวิเคราะห์ด้วยเครื่องมือ GC-MS และ HPLC ไม่พบสารเบอร์เกปเทนและองค์ประกอบกลุ่มสารคูมารินที่จะก่อการแพ้จากกระบวนการ Photo-oxidation ในไลม์ไฮโดรซอลและน้ำมันหอมระเหยจากเปลือกมะนาวตามมาตรฐาน สมอ. และการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีไมโครอิมัลชั่นที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัวของน้ำมันหอมระเหยจากเปลือกมะนาว  ไลม์ไฮโดรซอลและน้ำมะนาวที่มีคุณสมบัติด้านความงามจากผลการทดสอบการกระตุ้นคอลลาเจน การยับยั้งเอ็นไซม์ไทโรซิเนส
โดยสูตรตำรับผลิตภัณฑ์มีความคงตัว และมีการทดสอบความปลอดภัยในอาสาสมัครจำนวน 30 คน ผลิตภัณฑ์ได้มีใบรับจดแจ้งเลขที่ 76-1-680035265 วันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา  

 

รวมระยะเวลา 3 ปี  มีความพร้อมเชิงพาณิชย์ในการเข้าสู่ตลาดของประเทศไทยและตลาดโลก ทำให้ผลผลิตจากผลมะนาวเกิดการเพิ่มมูลค่าได้  ส่งผลกระทบในสังคม เศรษฐกิจ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านสิ่งแวดล้อม สนับสนุน Zero waste และเศรษฐกิจ BCG ของประเทศไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม เป็นการสานต่อและต่อยอดนวัตกรรมทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ ลดต้นทุนจากการซื้อวัตถุดิบจากต่างประเทศ

การคาดการณ์จากการดำเนินงานตามรูปแบบของโครงการฯ จะสามารถเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรและชุมชนได้โดยประมาณปีละ 3000000 บาท/ปี ลดรายจ่ายในการกำจัดเปลือกมะนาวเหลือทิ้งจากกระบวนการผลิตได้โดยประมาณ 500000 บาท/ปี นับเป็นการสร้าง “soft power” ให้กับชุมชนและประเทศได้อย่างสมบูรณ์ จากการใช้ประโยชน์ของมะนาวได้อย่างหลากหลาย ด้วยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้าไปเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจทั้งในด้านความงาม การดูแลสุขภาพ อาหาร ปศุสัตว์ รวมทั้งวัสดุศาสตร์ ซึ่งเป็นการนำความรู้และการใช้ประโยชน์ครบวงจรลงสู่ชุมชนและสังคม


​วว. พร้อมให้บริการด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ด้วยมาตรฐานสากล เพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตการเกษตร สมุนไพร ช่วยพัฒนาประเทศทั้งในด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันทั้งภายในประเทศและสู่ตลาดโลก ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็งและยั่งยืน

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ call center โทร. 0 2577 9000 หรือที่ระบบบริการลูกค้า “วว. JUMP”

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ