ประธานกสทช.แถลงผลงานที่ประชุมวุฒิสภา ยกระดับมาตรฐานโทรคมนาคม หนุนคนไทยใช้ประโยชน์จาก AI

ด้านสว.เร่งวางแผนคุม OTT และลดค่าบริการอินเทอร์เน็ตให้ประชาชน ขณะที่ “นพ.เปรมศักดิ์” ทวงความโปร่งใสใช้งบประมาณจัดประชุมวิชาการที่ภูเก็ต กรรมการกสทช.บางคนโยกงบ 7.6 ล้าน จนมีการตั้งกรรมการสอบและยื่นป.ป.ช.
วันที่ 22 ก.ย. ที่อาคารรัฐสภา ศ.คลินิค นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช. )ได้รายงานผลการปฏิบัติงานของกสทช. ประจำปี 2567 ต่อที่ประชุมวุฒิสภา ตามมาตรา 76 ของพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553
ศ.คลินิค นพ.สรณ ระบุว่า ความผันผวนทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์โลก ทำให้กสทช.จึงต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับบริบทใหม่ โดยปี 2567 กสทช.มีผลงานรูปธรรม อาทิ การรักษาวงโคจรดาวเทียมของประเทศตำแหน่ง 50.5 องศาตะวันออก การบริหารจัดการคลื่นความถี่เพื่อรองรับเศรษฐกิจดิจิทัล การคุ้มครองผู้บริโภคและผู้ด้อยโอกาส มีบริการเพื่อสังคม USO (Universal Service Obligation) ทั่วประเทศ เพื่อลดช่องว่างทางดิจิทัล กสทช.ได้ยกระดับการสื่อสารของไทยให้ก้าวหน้าด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ช่วยให้ภาคส่วนต่างๆ ประยุกต์ใช้งาน AI ในระบบสาธารณสุข การศึกษา การเงิน การคมนาคม การผลิต และการสื่อสาร ความท้าทายที่เกิดขึ้นนำไปสู่การกำหนดนโยบายกสทช.ประจำปี 2568-2569 เพื่อบริหารคลื่นความถี่และกำกับดูแลการให้มีประสิทธิภาพ รักษาผลประโยชน์ของประเทศไทยในเวทีโลก

ต่อมา นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล เลขาธิการกสทช. รายงานผลดำเนินงาน อาทิ การประมูลคลื่นคามถี่และสิทธิการใช้งานดาวเทียมต่างๆ โครงการเซลล์บรอดแคสต์ จะเพิ่มช่องทางโทรทัศน์เพื่อเตือนประชาชนให้ครบทุกช่องทาง ขณะที่ พล.ต.ต.เอกธนัช ลิ้มสังกาศ ประธานกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน กสทช. (กตป.) รายงานว่า ในภาพรวมกสทช.ผลงานดี แต่บางด้านยังล่าช้า มีปัญหากฎหมายซ้ำซ้อน ค่าบริการแพง ขาดการกำกับดูแล OTT และทีวีดิจิทัลที่ใกล้หมดอายุสัมปทาน เร่งปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเชิงรุกมากขึ้น
จากนั้น มีวุฒิสมาชิกหลายคนได้อภิปรายแสดงความคิดเห็น เช่น นายพรชัย วิทยเลิศพันธุ์ เห็นว่า กสทช.ควรแก้ปัญหาสัญญาณโรมมิ่งที่ชายแดนทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวสูญเงินโดยไม่รู้ตัว และขอให้ลดอำนาจประธานกสทช.กำหนดวาระประชุมบอร์ดทำให้เรื่องคั่งค้างมาก ด้าน ผศ.นพลดล อินนา เป็นห่วงเรื่องตำแหน่งเลขาธิการกสทช.ที่ว่างเว้นถึง 5 ปี มองว่าหากรักษาการเลขาธิการที่มีผลงานดีก็ควรตั้งเป็นเลขาธิการคนใหม่เลย

ด้าน นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว.สายสาธารณสุข อภิปรายถึงการตรวจสอบการใช้งบประมาณจัดงาน Regulatory Network Meeting ของกรรมการกสทช.บางคนที่ต้องการควบคุมสายงานวิชาการ อ้างว่าไปศึกษาดูงาน ณ โรงแรมดุสิตธานี ภูเก็ต เมื่อเดือนธ.ค. 2566 ตั้งงบประมาณ 5 ล้านบาท แต่ถูกบอร์ดทักท้วงและอนุกรรมการงบประมาณ กสทช. ตัดเหลือ 3.2 ล้านบาท สุดท้ายจึงโอนเงินจากส่วนอื่น แล้วลงรายการว่าเป็นค่าใช้จ่ายการทำงานต่างประเทศ ขออนุมัติค่าเครื่องบินชาวต่างชาติ 13 คน ถึง 2.6 ล้านบาท ใช้วิธีเปลี่ยนแปลงหมวดค่าใช้สอย สุดท้ายรวมใช้เงิน 7.6 ล้านบาท เกินกว่าที่ควรจะเป็นถึงเท่าตัว ผู้ได้รับเงินจากต่างประเทศมีความสนิทสนมกับกสทช.คนนั้น และยังให้ที่ปรึกษาตัวเองพร้อมด้วยพนักงานลูกจ้างรวม 50 กว่าคนไปด้วย ทั้งที่บางคนไม่มีส่วนร่วมในการประชุมเลย
“เมื่อจัดประชุมที่ภูเก็ต บรรยากาศพาไปจนเกิดการละเมิดทางเพศ แต่กลับถูกปกปิดข่าวและไม่ให้พนักงานรายงานข้อเท็จจริง ต่อมาที่ปรึกษาใกล้ชิดกสทช.คนนั้น ได้ขอลาออก อ้างว่ามีปัญหาสุขภาพ จนถึงวันนี้ยังไม่มีการแสดงความรับผิดชอบ คำถามคือทำไม กตป. ไม่รายงานเรื่องนี้เลย”
ต่อมา นายไตรรัตน์ รักษาการเลขาธิการกสทช. ชี้แจงเพิ่มเติมกรณีนี้ว่า ขณะนี้สำนักงานกสทช.ได้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการสอบวินัยพนักงานแล้ว ถ้ากรรมการกสทช.กระทำผิดก็อาจจะส่งเรื่องมายังสว.หรือ ป.ป.ช. ดำเนินการต่อไป