เมื่อ : 18 ก.ค. 2568

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) มอบหมายให้น.ส.พลอย ธนิกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำวธ. เป็นประธานในงานแถลงข่าวการจัดงานวันภาษาไทยแห่งชาติ จพุทธศักราช ๒๕๖๘ ที่หอประชุมเล็กศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 16 ก.ค. โดยมีนายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร นางยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม(สวธ.) น.ส.ลิปิการ์ กำลังชัย รองอธิบดีสวธ. ผู้บริหารวธ. ผู้บริหารสวธ. เครือข่ายทางวัฒนธรรม สื่อมวลชน และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วมงาน

 

น.ส.พลอย กล่าวว่า การใช้ภาษาไทยในชีวิตประจำวัน ควรใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม เพราะไม่เพียงแต่เป็นการแสดงถึงอัตลักษณ์ของชาติไทยที่ถูกที่ควรแล้ว ยังสะท้อนถึงความภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมได้ให้ความสำคัญกับภาษาไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันภาษาไทยแห่งชาติได้ถูกจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนเห็นคุณค่าและร่วมกันสืบสานการใช้ภาษาไทยอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน

น.ส.พลอย กล่าวต่อว่า ปีพุทธศักราช ๒๕๖๘ นี้  วธ.ได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรมวันภาษาไทยแห่งชาติ ในวันอังคารที่ ๒๙ ก.ค. ที่หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยภายในงานจะมีการมอบเข็มและโล่เชิดชูเกียรติแก่ผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่นในหลากหลายสาขา การมอบรางวัลเพชรในเพลง การมอบรางวัลการประกวดสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ การมอบเกียรติบัตรผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยที่ส่งเสริมการใช้ภาษาไทย


 ตลอดจนการจัดแสดงนิทรรศการ และการแสดงศิลปวัฒนธรรม ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาไทย และสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป ก่อให้เกิดการอนุรักษ์และใช้ภาษาไทยอย่างภาคภูมิใจต่อไปในอนาคต

ด้านนางยุถิกา กล่าวเสริมว่า สวธ.ได้ดำเนินการคัดเลือกบุคคลและองค์กรที่มีบทบาทโดดเด่นด้านภาษาไทยอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยในปีพุทธศักราช ๒๕๖๘ นี้ สวธ.ได้พิจารณาคัดเลือกบุคคลและองค์กรเพื่อรับเข็มและโล่เชิดชูเกียรติทางด้านภาษาไทย แบ่งเป็น ๔ ประเภท จำนวน ๑๖ รางวัล ดังนี้
๑.​ปูชนียบุคคลด้านภาษาไทย  ๑ ราย ได้แก่ รศ.จุไรรัตน์ ลักษณะศิริ
๒.​ผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น  ๗ ราย ได้แก่ (๑) นายกิตติศักดิ์ สุวรรณโภคิน (๒) นายเผด็จ บุญหนุน (๓) รศ.วิภาส โพธิแพทย์ (๔) นายสมพล เข็มกำเหนิด (๕) นายเอกรัตน์ จิตรมั่นเพียร (๖) นายอนุสรณ์ ติปยานนท์ และ (๗) รศ.อรชุมา ยุทธวงศ์
๓.​ผู้ใช้ภาษาไทยถิ่นดีเด่น ๖ ราย ได้แก่ (๑) ผศ.ประภาศ ปานเจี้ยง (๒) ผศ.พวงผกา ธรรมธิ (๓) นายยุทธพงศ์ มาตย์วิเศษ (๔) นายวิเชียร รัตนบุญโน (๕) นางสำรวม ดีสม และ (๖) นายอรุณศิลป์ ดวงมูล
๔.​ผู้มีคุณูปการต่อการใช้ภาษาไทย  ๑ ราย และ ๑ องค์กร ดังนี้ (๑) ประเภทบุคคล ได้แก่ นางสุรีย์ พันเจริญ และ (๒) ประเภทองค์กร ได้แก่ สมาคมกวีร่วมสมัย


นอกจากนี้ นายพนมบุตร กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมศิลปากรในฐานะหน่วยงานหลักด้านมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ได้จัดกิจกรรมเนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลากว่า ๒ ทศวรรษ โดยในปี พ.ศ. ๒๕๖๘ กรมศิลปากรได้ดำเนินกิจกรรมที่สำคัญ ๓ กิจกรรม ดังนี้


๑. การประกวดเพลง “เพชรในเพลง” เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๖๘ จัดขึ้นเพื่อยกย่องบุคคลในวงการเพลงที่มีผลงานดีเด่นด้านภาษาไทย ได้แก่ นักประพันธ์เพลงที่มีความสามารถผสมผสานความรู้ทางภาษา วรรณศิลป์ คีตศิลป์ และจินตนาการได้อย่างเหมาะสม และนักร้องที่ขับร้องเพลงได้ชัดเจนและถูกต้องตามหลักภาษาไทย มีศิลปะการใช้เสียง และถ่ายทอดจังหวะอารมณ์ในการขับร้องได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งยังเชิดชูเกียรติบุคคล องค์กร หรือโครงการที่มีผลงานดีเด่นด้านการส่งเสริมภาษาไทยและมีคุณูปการต่อวงการเพลง โดยผลการประกวดเพลง “เพชรในเพลง” เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๖๘
มีทั้งสิ้น ๒๐ รางวัล ได้แก่

รางวัลการประพันธ์เพลงดีเด่นด้านภาษาไทย จำนวน ๖ รางวัล
​๑.​รางวัลชนะเลิศ ผู้ประพันธ์คำร้องเพลงไทยสากล ได้แก่ ​นายศุภชัย  เจียรวนนท์ จากเพลง​กตัญญู
​๒.​รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ประพันธ์คำร้องเพลงไทยสากล ได้แก่ ​นายกฤตศิลป์  ฉลองขวัญ จากเพลง​ฟ้าหลังฝน
​๓.​รางวัลชนะเลิศ ผู้ประพันธ์คำร้องเพลงไทยลูกทุ่ง ได้แก่ ​นายสลา  คุณวุฒิ จากเพลง​ผู้หญิงหัวใจอีสาน
​๔.​รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ประพันธ์คำร้องเพลงไทยลูกทุ่ง ได้แก่ ​นายพีรพัฒน์  คงเพ็ชร จากเพลง​ไอดินกลิ่นหญ้า
​๕.​รางวัลชนะเลิศ ผู้ประพันธ์คำร้องเพลงเพื่อชีวิต ได้แก่​ นายพยัพ  คำพันธุ์
​​จากเพลง​สู้ชีวิต
​๖.​รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ประพันธ์คำร้องเพลงเพื่อชีวิต ได้แก่​นายสุรศักดิ์  ตันน้อย (กฤช  เกรียงไกร) และ นายประเสริฐ  พงษ์ธนานิกร (ราชันย์  วังทอง) จากเพลง​ชีวิต คือ อนัตตา


รางวัลการขับร้องเพลงดีเด่นด้านภาษาไทย จำนวน ๑๒ รางวัล
​๑.​รางวัลชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยสากลชาย ได้แก่ ​นายทชภณ  พลกองเส็ง (พลพล  พลกองเส็ง) จากเพลง​อยากให้รู้ว่าห่วงใย
​๒.​รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยสากลชาย ได้แก่ ​นายรัชเมศฐ์  สุวโชคพิบูลย์ (เล็ก รัชเมศฐ์) จากเพลง​ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว
​๓.​รางวัลชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยสากลหญิง ได้แก่ ​น.ส.สรวีย์  ธนพูนหิรัญ (ผิงผิง) จากเพลง​ฟ้าหลังฝน
​๔.​รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยสากลหญิง ได้แก่ ​น.ส.กวิสรา  คงบุญศิริคุณ (กอกี้ กวิสรา)
​​จากเพลง​Life of อีหล่า
​๕.​รางวัลชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยลูกทุ่งชาย ได้แก่ ​นายอนันต์  อาศัยไพรพนา (นัน อนันต์) จากเพลง​จีบเธอได้ไหม
​๖.​รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยลูกทุ่งชาย ได้แก่ ​นายกิตติคุน  บุญค้ำจุน (มนต์แคน  แก่นคูน) จากเพลง​แฟนบ่ว่าบ้อ
​๗.​รางวัลชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยลูกทุ่งหญิง ได้แก่ ​น.ส.สุทธิยา  รอดภัย (ใบเฟิร์น สุทธิยา) จากเพลง​เสียงหวานจากหลานย่าโม
​๘.​รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยลูกทุ่งหญิง ได้แก่ ​น.ส.กาญจนา  มาศิริ จากเพลง​แฟนเก่าที่เรายังรัก


​๙.​รางวัลชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงเพื่อชีวิตชาย ได้แก่ ​นายวรพล  นวลผกา (น๊อตตี้ freedom) จากเพลง​สู้ชีวิต
​๑๐.​รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงเพื่อชีวิตชาย ได้แก่ ​นายอิชณน์กร  พึ่งเกียรติรัศมี (จ๋าย ไททศมิตร) จากเพลง​แอบเก็บความในใจไว้ภายในแว่นเรย์แบนสีดำ
​๑๑.​รางวัลชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงเพื่อชีวิตหญิง ได้แก่ ​น.ส.ชนาภรณ์  ทวีชาติ (แพร ชนา) จากเพลง​คลื่น
​๑๒.​รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงเพื่อชีวิตหญิง ได้แก่ ​นางสาวชฎาพร  เถาบุญ (บักฟ้า ชฎาพร) จากเพลง​พรหนึ่งข้อ

รางวัลเชิดชูเกียรติพิเศษ จำนวน ๒ รางวัล
​๑.​รางวัลเชิดชูเกียรติ นัจจกรผู้สร้างสรรค์บทเพลงและบทละครเวที
​ได้แก่​ นางดารกา  วงศ์ศิริ


​๒.​รางวัลเชิดชูเกียรติ ผู้มีคุณูปการต่อวงการเพลงและดนตรี ได้แก่​ นายอานันท์  นาคคง

๒.​การจัดพิมพ์หนังสือหายาก โดยกรมศิลปากรได้จัดพิมพ์หนังสือหายากเรื่อง “จินดามณี ฉบับสมเด็จพระเจ้าบรมโกศ” ซึ่งเป็นแบบเรียนภาษาไทยในสมัยอยุธยา สอนเรื่องอักขรวิธี การประสมอักษร และการผันวรรณยุกต์อย่างละเอียด มีคุณค่าต่อการศึกษาพัฒนาการด้านอักษรศาสตร์และการเรียนการสอนภาษาไทยในอดีต
๓.​การสัมมนาทางวิชาการด้านภาษาและวรรณคดีไทย ในหัวข้อ “วรรณคดีบทละครไทย” ที่มุ่งส่งเสริมการเรียนรู้ด้านภาษาและวรรณคดีไทยให้เข้าถึงประชาชนอย่างกว้างขวาง เพื่อธำรงไว้ซึ่งมรดก ทางวัฒนธรรมของชาติอย่างมั่นคงและยั่งยืน ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ ๒๒ ส.ค.เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๖.๓๐ น. โดยมีการถ่ายทอดสดให้ผู้สนใจรับชมได้ทางเฟสบุ๊กกรมศิลปากร วธ.

 

สุดท้ายนี้ น.ส.พลอย กล่าวเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานวันภาษาไทยแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๖๘ ในวันอังคารที่ ๒๙ ก.ค.ตั้งแต่เวลา ๐๙.๓๐ น. เป็นต้นไป ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อร่วมเฉลิมฉลอง ร่วมเรียนรู้ และร่วมสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง สร้างสรรค์ และภาคภูมิใจต่อชาติอย่างแท้จริง ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (www.culture.go.th) หรือ Facebook Fanpage : กรมส่งเสริมวัฒนธรรม

 

 

#กรมส่งเสริมวัฒนธรรม#วันภาษาไทยแห่งชาติ

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ