ลูกดอกแห่งการพัฒนา “DART” พลังคิด พลังใจ เพื่อการพัฒนาตามแนวพระราชดำริอย่างยั่งยืน

ตลอดรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ประเทศไทยได้มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดผ่านความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชน ตามแนวทางพระราชดำริเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกมิติอย่างเป็นรูปธรรมไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม สาธารณสุข การศึกษา วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม เกิดเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่ไม่ใช่แค่เพียงแต่ผลการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม หากยังเป็นแหล่งรวบรวมองค์ความรู้ที่ทรงคุณค่าผ่านการทดลองและประยุกต์ใช้ศาสตร์ต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ ไม่ว่าจะเป็น “หลักการทรงงาน” “ทฤษฎีใหม่” หรือ “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง”
ดังนั้น เพื่อน้อมนำองค์ความรู้เหล่านี้ไปใช้ในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการสืบสาน รักษา ต่อยอด สำนักงาน กปร. ได้จัดโครงการนักพัฒนาตามแนวพระราชดำริ (พพร.) รุ่นที่ 12 ขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาบุคลากรจากหน่วยงานต่าง ๆ ให้เป็น “นักพัฒนา” ที่สามารถขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริได้จริง

นางพิชญดา หัศภาค รองเลขาธิการ กปร. กล่าวในพิธีปิดโครงการนักพัฒนาตามแนวพระราชดำริ (พพร.) รุ่นที่ 12 ณ ห้องประชุมหนุมาน 1 สำนักงาน กปร. เมื่อเร็วๆนี้ ว่า “ชื่อย่อหลักสูตรนี้ คือ DART เปรียบเสมือนลูกดอกที่เฉียบคม“เล็งเป้าแม่น ยิงไกล มีทิศทาง” สอดรับกับบทบาทนักพัฒนาตามแนวพระราชดำริ ซึ่งเป็นผู้นำรุ่นใหม่ที่ต้องกล้าคิด กล้าทำ มุ่งมั่น ขับเคลื่อน และเห็นผลลัพธ์อย่างแท้จริง สำนักงาน กปร. คาดหวังให้ผู้เข้าอบรมเป็นลูกดอกแห่งการพัฒนา “DART” ที่ไม่ใช่แค่ลูกดอกที่เล็งเป้าหมาย แต่สามารถสร้างกรอบแนวคิดของนักพัฒนารุ่นใหม่ที่แม่นยำ มุ่งมั่น และไม่หวั่นไหว รวมถึงเป็น ”ทุนทางความสัมพันธ์” และ “พลังแห่งความตั้งใจ” ที่จะนำไปต่อยอดในโลกแห่งความจริงอย่างมีคุณค่า”นางพิชญดา กล่าว

น.ส.ลลิตา ปนุตติกร นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย หนึ่งในผู้เข้ารับการอบรม พพร.12 เผยว่า หลักสูตรนี้ช่วยให้เข้าใจภาพรวมการดำเนินงานตามแนวพระราชดำริได้ชัดเจนมากขึ้น ได้เรียนรู้การทำงานของหน่วยงานอื่น ๆ และสามารถนำไปปรับใช้ในการทำงานร่วมกันแบบบูรณาการ เป็น กปร. ตัวคูณ เกิดการทำงานในแนวทางเดียวกัน เพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ
นายภูพิชิต ช่วยบํารุง ผู้อำนวยการส่วนประสานงานโครงการภาคเหนือ สํานักสนองงานพระราชดําริ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า หลักสูตร พพร. เป็นหลักสูตรที่ดีมาก ได้เรียนรู้จากพื้นที่จริง ทำให้เข้าใจระบบงานของแต่ละหน่วยงาน และสามารถสร้างเครือข่ายที่นำไปสู่การประสานงานในพื้นที่ห่างไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพื้นที่ภาคเหนือซึ่งเป็นพื้นในความรับผิดชอบของกรมอุทยานฯ ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ทุรกันดาร จากการอบรมครั้งนี้ได้มีแนวทางในการทำงานเชิงพื้นที่ร่วมกันซึ่งจะเกิดประโยชน์ สร้างความผาสุขของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่อไป
น.ส.สุดารัตน์ คุสินธุ์ ผู้อํานวยการสถาบันอนุชิตพิพรรธน์ สำนักงาน กปร. เปิดเผยว่าโครงการนักพัฒนาตามแนวพระราชดําริ ปี พ.ศ. 2568 จัดเป็นรุ่นที่ 12 สํานักงาน กปร. ในฐานะหน่วยงานหลักในการประสานหน่วยงานที่สนองงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ ตระหนักถึงคุณค่าคุณประโยชน์ขององค์ความรู้ตามแนวพระราชดําริ จึงได้จัดโครงการนี้ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ 3 ประการด้วยกัน ได้แก่การเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ การส่งเสริมแลกเปลี่ยนความรู้ ทักษะ
รวมถึงทัศนคติในการทํางาน การบริหารเชิงกลยุทธ์ที่จะมีประโยชน์ในการทํางานที่ส่งผลต่อยอดไปถึงการทํางานสนองพระราชดําริ และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ ของบุคลากรจากหน่วยงานต่างๆ ในการสนองงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยผู้เข้าร่วมอบรมทั้ง 60 ท่าน จะนําความรู้ความเข้าใจและประสบการณ์ที่ได้รับจากการอบรมไปปรับใช้ในการทำงานของตนเอง พัฒนาทีมงาน พัฒนาองค์กร เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ขององค์กร และเป็นเครือข่ายที่เข้มแข็งในการสนองงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต่อไป


DART: ลูกดอกแห่งการพัฒนา จึงไม่ใช่เพียงชื่อของหลักสูตร หากแต่เป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่น ความร่วมมือ และการต่อยอดองค์ความรู้ตามแนวพระราชดำริ ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมทั่วประเทศ
#โครงการนักพัฒนาตามแนวพระราชดำริ (พพร.) รุ่นที่ 12#สำนักงาน กปร. #ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง”