วช. ร่วมภาคีเครือข่ายจ.เชียงใหม่-ลำพูน “มุ่งเป้าอนาคตประเทศไทยเพื่ออากาศสะอาด น้ำมั่นคง” ด้วยวิจัยและนวัตกรรม

เมื่อวันที่ 2 ก.ค. สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “มุ่งเป้าอนาคตประเทศไทยเพื่ออากาศสะอาด น้ำมั่นคง” เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมาย“ประเทศไทยปลอดภัยจาก PM2.5 และน้ำมั่นคง ไม่ท่วม ไม่แล้งใน 10 จังหวัด” ตามยุทธศาสตร์วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยมี ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการวช. เป็นประธานในพิธีเปิด
พร้อมนี้ผู้บริหารที่เข้าร่วมกิจกรรมประกอบด้วย นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ดร.วิชาญ อิงศรีสว่าง ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือสวก. ดร.วิจารณ์ สิมาฉายา ประธานกรรมการคณะกรรมการส่งเสริมแผนงานเป้าหมายสำคัญของเป้าหมาย สำคัญฯ เรื่อง “น้ำมั่นคง ไม่ท่วม ไม่แล้ง ใน 10 จังหวัด” ดร.สุจริต คูณธนกุลวงศ์ ผู้อำนวยการแผนงาน “น้ำมั่นคง ไม่ท่วม ไม่แล้ง ใน 10 จังหวัด” น.ส.เสาวนีย์ มุ่งสุจริตการ รองผู้อำนวยการวช. พร้อมกับผู้บริหารส่วนจ.เชียงใหม่และจ.ลำพูน ผู้บริหาร วช. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และคณะนักวิจัย ที่โรงแรมเซ็นทารา ริเวอร์ไซด์ เชียงใหม่ จ.เชียงใหม่

ดร.วิภารัตน์ กล่าวถึง วช. ได้ร่วมกับ สวก. ดำเนินการการขับเคลื่อนเป้าหมายสำคัญตามยุทธศาสตร์ ววน. ในประเด็น “ประเทศไทยปลอดภัยจาก PM2.5” และ “น้ำมั่นคง ไม่ท่วม ไม่แล้ง” ในพื้นที่จังหวัดเป้าหมาย โดยกำหนดเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ในการลดจุดความร้อน ฝุ่น PM2.5 และผลกระทบต่อสุขภาพ
รวมถึงเพิ่มความมั่นคงด้านทรัพยากรน้ำในระดับตำบล ความร่วมมือกับหน่วยงานภาคีในพื้นที่ เช่น จ.เชียงใหม่ ลำพูน และหน่วยงานท้องถิ่น มีเป้าหมายเพื่อบูรณาการองค์ความรู้เทคโนโลยี และนวัตกรรมจากงานวิจัยไปใช้แก้ปัญหาเชิงพื้นที่ วช. มุ่งเน้นการทำงานแบบบูรณาการระหว่างหน่วยงานทุกระดับ เพื่อให้การวิจัยตอบโจทย์ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม. ความร่วมมือนี้ยังสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนในท้องถิ่นอย่างจริงจัง และส่งเสริมการพัฒนาอย่างครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

ภายในงาน พี่มีการกล่าวจุดมุ่งหมายของบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ โดย
1. นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่
2. นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน
3. ดร.วิชาญ อิงศรีสว่าง ผู้อำนวยการสวก.
4. นายอนันต์ เพ็ชร์หนู ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ภาค 1
5. นายวีรยุทธ ปิ่นแก้ว รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)เชียงใหม่
6. นายวัลลภ นามวงศ์พรม รองประธานสภาวัฒนธรรมจ.เชียงใหม่
7. นายชัชวาลย์ ทองดีเลิศ ประธานสภาลมหายใจจ.เชียงใหม่
8. นายวีระเดช ภู่พิสิฐ นายกอบจ.ลำพูน
9. นายพงษ์เทพ มนัสตรง ประธานสภาวัฒนธรรมจ.ลำพูน
10. นายภาณุพงศ์ ไชยวรรณ์ ประธานสภาลมหายใจจ.ลำพูน

การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “มุ่งเป้าอนาคตไทยเพื่ออากาศสะอาด น้ำมั่นคง” มีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ววน. โดยส่งเสริมการใช้ผลงานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมในการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 และการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จ.เชียงใหม่และลำพูน ที่ วช. และสวก. ให้การสนับสนุนผ่านงานวิจัยและนวัตกรรม ซึ่งถือเป็นการตอบโจทย์ปัญหาเชิงพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม พร้อมส่งเสริมการบูรณาการข้อมูลเพื่อใช้ในการวางแผนเชิงนโยบาย และเปิดโอกาสให้ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนร่วมพัฒนาพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

พร้อมกันนี้ มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯร่วมกันใน 2 จังหวัด
-จ.เชียงใหม่ ระหว่าง วช.กับ สวก. จ.เชียงใหม่ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ภาค 1 อบจ.เชียงใหม่ สภาวัฒนธรรมจ.เชียงใหม่ และสภาลมหายใจจ.เชียงใหม่
-จ.ลำพูน ระหว่างสวก.ลำพูน จ.ลำพูน สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ภาค 1 อบจ.ลำพูน สภาวัฒนธรรมจ.ลำพูน และสภาลมหายใจจ.ลำพูน
การลงนามร่วมกันของภาคีเครือข่าย ที่เชียงใหม่ และจ.ลำพูนในครั้งนี้ เป็นการมุ่งเป้าอนาคตประเทศไทยเพื่ออากาศสะอาด น้ำมั่นคง ด้วยวิจัยและนวัตกรรม
นอกจากนี้ ยังมีการหารือแนวทางการทำงานร่วมกันกับภาคีเครือข่าย “การขับเคลื่อนมุ่งเป้าอนาคตประเทศไทยเพื่ออากาศสะอาด น้ำมั่นคง” ใน 2 ประเด็น ได้แก่ ประเด็น : น้ำมั่นคง ไม่ท่วม ไม่แล้ง และประเด็น : ประเทศไทยปลอดภัยจาก PM2.5 โดย ดร.วิภารัตน์ ดร.วิจารย์
ศ.ดร.สุจริต ผู้บริหารส่วนราชการในจ.เชียงใหม่และจ.ลำพูน และคณะนักวิจัย

ทั้งนี้ พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ และกิจกรรม “มุ่งเป้าอนาคตประเทศไทยเพื่ออากาศสะอาดน้ำมั่นคง” จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีในการรวมพลังทุกภาคส่วนในการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ “แก้ปัญหาเชิงพื้นที่อย่างยั่งยืน” และ “ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน” ผ่านความร่วมมือเชิงบูรณาการต่อไป
#สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) #สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)#