เดินหน้าฟื้นฟู “ป่าพรุควนเคร็ง” บูรณาการแก้ไฟป่า คืนความสมบูรณ์ สร้างความหลากหลาย สู่ความยั่งยืน

สำนักงาน กปร. กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมบูรณาการฟื้นฟู “ป่าพรุควนเคร็ง” ภายใต้การสืบสานแนวพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมุ่งเน้นการแก้ปัญหาไฟป่าด้วยการรักษาระดับน้ำผ่านระบบทำนบซองและขุดแพรกรวม 200 กิโลเมตร พร้อมปลูกพืชป่าเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ และสร้างแหล่งอาหารให้สัตว์น้ำท้องถิ่นอย่าง “ปลาดุกลำพัน” ควบคู่สร้างจิตสำนึกเยาวชนผ่านครูป่าไม้

นายพงษ์ศักดิ์ ด้วงโยธา ผู้ตรวจราชการ ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักสนองงานพระราชดำริ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยในระหว่างให้การต้อนรับ พล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคใต้ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี รองประธานอนุกรรมการฯ นายวัชระ หัศภาค ที่ปรึกษาด้านการพัฒนา และคณะอนุกรรมการฯ ในโอกาสติดตามความก้าวหน้าโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าพรุควนเคร็งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเร็วๆนี้ว่า ในการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ องคมนตรีได้ให้คำแนะนำด้านการบริหารจัดการพื้นที่ป่าพรุควนเคร็งซึ่งเป็นระบบนิเวศที่สำคัญและมีความซับซ้อน จึงจำเป็นต้องมีผู้รับผิดชอบหลัก เพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกันของทุกส่วนงานที่เกี่ยวข้องตามบทบาท หน้าที่ ความรับผิดและความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ซึ่งกรมอุทยานฯ จะนำไปดำเนินการเพื่อให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายต่อไป โดยมีสำนักงานจ.นครศรีธรรมราช และอ.เชียรใหญ่ เข้ามาเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
“จะมีการสร้างจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ของเยาวชนในพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาทาง
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ร่วมกับสำนักงาน กปร.จัดกิจกรรมโครงการครูป่าไม้ สนองพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในปีนี้ได้มีการดำเนินการใน 5 โรงเรียนของพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยการสนับสนุนงบประมาณจาก สำนักงาน กปร. เยาวชนเหล่านี้จะมีพื้นฐานในการดูแลรักษาสภาพแวดล้อม และร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่ต่อไป” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว

กรณีไฟป่าในพื้นที่ป่าพรุควนเคร็งที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ผู้ตรวจราชการ ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักสนองงานพระราชดำริ กรมอุทยานฯ เผยว่า ปัจจุบันได้วางแนวทางในการรักษาระดับน้ำในป่าพรุเพื่อไม่ให้เกิดไฟป่าแบบบูรณาการ โดยการดำเนินงานร่วมกันของกรมชลประทาน กรมอุทยานฯ กรมป่าไม้ และหน่วยงานท้องถิ่น เช่น การบริหารน้ำในป่าพรุไม่ให้แห้ง การทำทำนบซอง การขุดแพรก (ขุดแต่งคันดินเพื่อแบ่งพื้นที่และชักน้ำเข้าพื้นที่เป้าหมาย ) ตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งตอนนี้ได้ดำเนินการไปแล้ว 140 กิโลเมตร อยู่ในระหว่างกำลังดำเนินการอีก 60 กิโลเมตร แล้วเสร็จตามเป้าหมายที่ 200 กิโลเมตร

“ส่วนพันธุ์พืชในพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นพืชป่าพรุ เช่น กระจูด ซึ่งเป็นพืชที่สร้างรายได้หลักให้แก่ชุมชน ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเครื่องจักสานรูปแบบต่าง ๆ จำหน่าย ส่วนไม้ยืนต้นก็มีต้นไทร ต้นสะเตียว โดยผลจะเป็นอาหารของปลาดุกลำพัน ซึ่งสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับสั่งให้มีการเพาะขยายพันธุ์แล้วนำมาปลูกในพื้นที่ให้มีปริมาณเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นอาหารตามธรรมชาติให้แก่ปลาดุกลำพัน ซึ่งเป็นปลาที่อาศัยในป่าพรุเท่านั้น นับเป็นการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำพื้นถิ่น และสร้างความหลากหลายในระบบนิเวศของแหล่งน้ำ เพื่อเป็นแหล่งอาหารและสร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว

สำหรับพื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง เป็นป่าพรุผืนสุดท้ายของจ.นครศรีธรรมราช และเป็นป่าพรุที่อุดมสมบูรณ์ มีความซับซ้อนเชิงนิเวศอีกผืนหนึ่งของประเทศ ตั้งอยู่ในโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีจำนวนทั้งหมด 316901 ไร่ สภาพพื้นที่มีน้ำท่วมขังตลอดทั้งปี รองรับน้ำจากเทือกเขาหลวง มีลำน้ำหลักไหลผ่าน รวมทั้งเป็นพื้นที่รับน้ำจากพื้นที่โดยรอบ ในทุกปีพื้นที่ป่าพรุควนเคร็งประสบปัญหาไฟป่า
รวมทั้งได้รับผลกระทบจากน้ำเสียจากนากุ้งและน้ำเปรี้ยวจากพรุ ปัจจุบันได้มีการบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ผ่านการบริหารจัดการน้ำในป่าพรุให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมสำหรับควบคุมไฟป่า และการเพิ่มประสิทธิภาพในการเฝ้าระวังโดยการเดินสำรวจ ลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่ เพื่อป้องกันการบุกรุกป่าและลักลอบเผาป่า รวมถึงการเสริมสร้างจิตสำนึกและสนับสนุนกระบวนการมีส่วนร่วมของราษฎรที่อาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่ ให้สามารถดำเนินชีวิตร่วมกับการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ป่าพรุให้มีความอุดมสมบูรณ์ โอกาสนี้ องคมนตรี ได้ให้ข้อเสนอแนะในการดำเนินงาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ราษฎรตามพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา ต่อยอดโครงการสืบไป
#โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคใต้#ป่าพรุควนเคร็ง#
สำนักสนองงานพระราชดำริ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช