เมื่อ : 02 มิ.ย. 2568


“ปัจจุบันเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI และหุ่นยนต์เข้ามามีบทบาทอย่างมากในการใช้ชีวิตประจำวัน ที่บางครั้งเราอาจไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกนำโดย AI และหุ่นยนต์อยู่ เช่น เมื่อเราต้องการค้นหาร้านอาหารหรือสินค้า เรามักจะได้รับคำแนะนำจาก Influencers หรือการแนะนำต่างๆ ซึ่งเบื้องหลังสิ่งเหล่านี้คือ อัลกอริทึม AI ที่เรียนรู้จากพฤติกรรมของเราและพยายามที่จะแนะนำหรือชักจูงให้เราทำตาม เช่น ไปกินข้าวร้านที่แนะนำหรือซื้อของตามคำแนะนำ ทำให้เกิดคำถามที่น่าสนใจคือ ”ใครควบคุมใครกันแน่” ระหว่างมนุษย์ กับ AI และหุ่นยนต์ ดังนั้น การจะใช้ประโยชน์จาก AI เราควรต้องทำอย่างไร และต้องระวังอะไรบ้าง และหากเราเป็นผู้ควบคุม เราจะต้องรู้เท่าทันในเรื่องนี้อย่างไร” ผศ. ดร.สุภชัย วงศ์บุณย์ยง ผู้อำนวยการสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม (ฟีโบ้) กล่าว

”หุ่นยนต์ไม่กัด : เปิดโลกหุ่นยนต์และ AI แบบสนุก เข้าใจง่าย” ที่จัดขึ้นโดยสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เมื่อวันจันทร์ที่ 2 มิ.ย. ณ SCBX Next Tech ชั้น 4 สยามพารากอน กรุงเทพฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดมุมมองและทำความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI และหุ่นยนต์ สำหรับคนทั่วไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มครอบครัว เด็กและเยาวชน เพราะปัจจุบัน AI และหุ่นยนต์ ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนควรเรียนรู้ที่จะใช้ประโยชน์และรู้เท่าทันเทคโนโลยีเหล่านี้ โดยกิจกรรมไฮไลท์ภายในงาน พบกับการสัมผัสประสบการณ์ที่จะเชื่อมทุกท่านเข้ากับโลกเสมือนจริงผ่านแว่นตา HoloLens การจัด Workshop การแสดงผลงาน และเวทีเสวนาในประเด็นที่น่าสนใจ อาทิ “หุ่นยนต์และ AI เราคุมมัน หรือมันคุมเรา?” ”เรียนหุ่นยนต์ อนาคตไปไหน?” และ “จากเกิดจนโต AI ทำอะไรกับลูกคุณบ้าง?” โดยทีมอาจารย์และผู้เชี่ยวชาญที่มากประสบการณ์จากฟีโบ้


ผศ. ดร.สุภชัย กล่าวว่า เป้าหมายหนึ่งของงานคือการช่วยให้ผู้คนได้รู้เท่าทัน และเข้าใจว่า เราจะใช้ประโยชน์จาก AI อย่างไร เพื่อให้ชีวิตเราดีขึ้นมากกว่าแค่การกังวลว่า AI จะมาแย่งงาน เพราะเริ่มมีความเข้าใจกันมากขึ้นแล้ว แต่ประเด็นที่เราควรพูดถึงตอนนี้คือจะปรับตัวอย่างไร และจะใช้ AI และหุ่นยนต์อย่างไรให้เกิดประโยชน์เพื่อทำให้ชีวิตของคนเราดีขึ้น เพราะถ้าเราใช้ AI อย่างไม่ถูกต้องอาจมีผลเสียได้ ดังนั้นจึงต้องสร้าง ความตระหนักรู้ (awareness) เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะผลกระทบต่อด้านการศึกษาและการเรียนรู้ของเด็กในยุคดิจิทัล โดยในการเสวนาหัวข้อ “จากเกิดจนโต AI ทำอะไรกับลูกคุณบ้าง?” 

ผศ. ดร.สุภชัย กล่าวว่า หัวข้อนี้ฟังดูแล้วน่ากลัว ซึ่งเราก็เห็นว่าน่ากลัว เนื่องจาก AI อยู่ในทุกที่ สำหรับเด็กที่เกิดมาในยุคปัจจุบันเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ชีวิตโดยไม่มี AI สามารถเริ่มเล่นกับหุ่นยนต์ได้ตั้งแต่เด็ก หัวข้อนี้จึงเน้นให้เห็นถึงข้อดีและข้อเสียของ AI ในบริบทของการเรียนรู้ เพื่อสร้างความตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงของการเรียนและเน้นความสำคัญของการสอนให้ใช้ AI เป็นเพียงผู้ช่วย ยกตัวอย่างปัญหาการใช้ AI ในการทำการบ้านของเด็กและการตรวจการบ้านของครู ซึ่งอาจนำไปสู่สถานการณ์ที่ AI เก่งขึ้นเรื่อยๆ แต่คนกลับถดถอยหรือแย่ลง หากไม่ได้ใช้ความคิดหรือทักษะ 

 

ดังนั้น หัวข้อนี้เราต้องการเน้นย้ำให้เห็นว่าในยุคที่มี AI การเรียนการสอนต้องเปลี่ยนไป โดยไม่ควรใช้ AI เพื่อเอาคำตอบเพียงอย่างเดียว แต่เราต้องมีการคิดวิเคราะห์ (critical thinking) เพื่อตัดสินว่าสิ่งที่ AI ตอบนั้นถูกต้องหรือไม่ และมีอะไรที่เราต้องตัดสินใจเอง เราต้องใช้ความคิดให้มากขึ้น ไม่ใช่การให้มันเป็นคำตอบสุดท้ายและต้องสอนให้ผู้เรียนตั้งคำถามกับมันเป็น 

สำหรับ ”เรียนหุ่นยนต์ อนาคตไปไหน?” หัวข้อนี้ จะอธิบายถึงการเรียนหุ่นยนต์นั้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่การแข่งขันเพียงอย่างเดียว แต่มีโอกาสที่เปิดกว้างกว่านั้นมาก เช่น การเป็น Robotic Engineer ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ ควบคุมหุ่นยนต์และ AI ในภาคอุตสาหกรรมและบริการ การเป็น Researcher หรือนักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานวิจัยหุ่นยนต์ขั้นสูง หรือการเป็น Entrepreneur ในสายงานหุ่นยนต์ ยกตัวอย่างบุคคลและบริษัททั้งในไทยและบริษัทที่เกี่ยวข้องในระดับโลก เช่น Marc Raibert (ผู้ก่อตั้ง Boston Dynamic) Rodney Brooks     (ผู้ก่อตั้ง iRobot Rethink Robotics) เป็นต้น

ผู้อำนวยการ ฟีโบ้ กล่าวด้วยว่า คาดหวังว่าการจัดงานครั้งนี้ จะทำให้ผู้เข้าร่วมงานโดยเฉพาะกลุ่มผู้ปกครองและเด็ก ได้รับประสบการณ์และเปิดมุมมองเกี่ยวกับ AI และหุ่นยนต์ ได้เรียนรู้วิธีที่จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเหล่านี้ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีความตระหนักรู้ ถึงผลเสียที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้อย่างไม่ถูกต้อง และที่สำคัญที่สุดคือ การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ เพื่อที่เราจะเป็นผู้ควบคุมและใช้ AI เป็นเครื่องมืออย่างแท้จริง แทนที่จะถูกควบคุมหรือพึ่งพา AI จนเสียความสามารถของตนเองไป


“การรู้เท่าทัน จะช่วยให้เข้าใจว่า AI ไม่ได้น่ากลัว หรือ ”กัด” อย่างที่คิด แต่ควรใช้มันอย่างถูกวิธีและระวังผลเสียที่อาจเกิดขึ้นได้หากใช้อย่างไม่เหมาะสม”

 

#มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.)#สถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม (ฟีโบ้) 

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ